นักวิเคราะห์มองว่า การที่สหรัฐออกมาประกาศว่าจะใช้ทางเลือกใหม่ในการกดดันให้เกาหลีเหนือให้หยุดโครงการพัฒนานิวเคลียร์นั้น จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแย่ลงไปอีก และทำให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดมากขึ้น
การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มาร์ค โทเนอร์ โฆษกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยว่า "สหรัฐจะหามาตราการใหม่ในการกดดันเกาหลีเหนือหากเกาหลีเหนือยังไม่หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์" แต่ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะใช้มาตรการใด
หากพิจารณาจากความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้วระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ จะพบว่าท่าทีที่แข็งกร้าวของสหรัฐอาจไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่จะกลับนำไปสู่ปัญหาที่ไม่จบสิ้น
นายหลี เชิ่งลี่ เลขาธิการใหญ่ประจำศูนย์การเรียนรู้ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยการต่างประเทศแห่งประเทศจีนหรือ CFAU แสดงความเห็นว่า การเข้าหาเกาหลีเหนือด้วยการสนับสนุนการปฏิรูปทางเศรษฐกิจอาจเป็นวิธีที่ได้ผลมากกว่าการคว่ำบาตรและการตัดขาดเกาหลีเหนือออกจากสารระบบ
เช่นเดียวกับนายจิน ช่านหลง รองอธิการบดีคณะรัฐศาสตร์การทูต มหาวิทยาลัยประชาชนจีนที่ออกมาแสดงความเห็นว่าปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกาหลีเหนือหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์คือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรทัศน์ว่า การทำให้เกาหลีเหนือยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้นั้น นับเป็นความท้าทายอันใหญ่หลวงของสหรัฐ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโอบามายังมีแผนที่จะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในคาบสมุทรเกาหลี โดยกล่าวว่า "นอกจากจะพยายามแก้ปัญหานิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือแล้ว สหรัฐยังสร้างระบบป้องกันการจากภัยคุกคามที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำและการยั่วยุที่เกาหลีเหนือพยายามแสดงออกมา"
ทั้งนี้ จีนและรัสเซียได้แสดงความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวของสหรัฐเนื่องจากจะเป็นการสร้างภัยคุกคามอย่างแท้จริงต่อเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีนตะวันออกเฉียงเหนือ
ในขณะเดียวกัน นายจอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวยังคงยืนยันที่จะยกระดับการกดดันเกาหลีเหนือด้วยการร่วมมือกับนานาชาติ ภายหลังที่เกาหลีเหนือไม่มีทีท่าที่จะหยุดการพัฒนานิวเคลียร์แต่อย่างใดแม้ว่าจะถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติแล้วก็ตาม
คำพูดของนายเออร์เนสต์เป็นการยืนยันทางอ้อมว่า วิธีการแก้เผ็ดของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือในช่วงที่ผ่ามานั้น ล้มเหลวและนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่มีใครเป็นผู้ชนะ
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า วิธีการทางการทูติที่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดีกับประเทศที่มีนิวเคลียร์อย่างอิหร่านจึงเป็นสิ่งที่ควรนำมาใช้ในกรณีของเกาหลีเหนือด้วย และควรมีการจับเขาคุยกันเกิดขึ้นระหว่างนานาชาติและเกาหลีเหนือ
ท่ามกลางความขัดแย้งกับสหรัฐนั้น ล่าสุดเกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยขีปนาวุธดังกล่าวยิงไปไกลกว่า 30 กม.
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า เกาหลีเหนืออาจยิงทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งก่อนการประชุมแห่งชาติของพรรคแรงงานในวันที่ 6 พ.ค.
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมใหญ่ครั้งแรกในรอบ 36 ปีและเป็นครั้งแรกภายใต้การนำของคิม จอง อึน สำนักข่าวซินหัวรายงาน