Spotlight: EU เร่งผลักดันอังกฤษออกจากกลุ่มโดยเร็ว หวั่นยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบหนัก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 27, 2016 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 6 ภาคีสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาเรียกร้องให้อังกฤษดำเนินการถอนตัวจาก EU โดยเร็ว หลังการลงประชามติครั้งประวัติศาตร์มีผลปรากฎว่า อังกฤษได้ตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิก EU (Brexit)

“การดำเนินการควรเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ยืดเยื้อ" นายแฟรงค์-วอลเทอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศของเยอรมันกล่าวหลังจากการประชุมกับตัวแทนกลุ่มสมาชิก EU ซึ่งประกอบด้วยฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้เสร็จสิ้นลง

“เราจะผลักดันให้เริ่มดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด" นายฌอง มาร์ค เอโรต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าว พร้อมทั้งแสดงความคาดหวังว่าการดำเนินการจะเป็นไปตามกฎหมายมาตรา Article 50 ตามสนธิสัญญากรุงลิสบอน ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ นายฌอง มาร์ค เอโรต์ยังกล่าวถึงนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษว่า “เขาต้องยอมรับในผลที่ตามมา"

ในขณะที่ EU เร่งให้อังกฤษออกจากกลุ่มโดยเร็วนั้น เมื่อตอนเที่ยงของวันเสาร์ที่ผ่านมามีประชากรกว่า 1 ล้านคนได้ลงชื่อในคำร้องขอต่อรัฐสภาให้มีการลงประชามติครั้งที่ 2

หนังสือคำร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่จะนำทางไปสู่การลงประชามติครั้งใหม่ ซึ่งระบุว่าคะแนนโหวตให้อยู่และคะแนนโหวตให้ออกนั้น จะต้องมีมากกว่า 60% และจะต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ถึง 75% ก่อนที่จะมีความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นต่อสถานภาพสมาชิก EU ของสหราชอาณาจักร

โดยหนังสือคำร้องขอดังกล่าวสามารถรวบรวมรายชื่อมากกว่า 1,000 รายชื่อในทุกๆชั่วโมง

ทางด้านนายวิลเลียม โอลิเวอร์ เฮเลย์ หนึ่งในพลเมืองอังกฤษผู้ริเริ่มให้มีการยื่นคำร้องดังกล่าวได้ชี้แจงว่า เราลงนามเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กฎหมายที่ระบุว่า หากคะแนนโหวตให้อยู่หรือแยกมีจำนวนน้อยกว่า 60% โดยที่มีผู้ออกมาลงคะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 75 สมควรให้มีการพิจารณาถึงการลงประชามติครั้งใหม่

นายเฮเลย์ได้จัดให้มีการยื่นคำร้องขอดังกล่าวหลังจากผลการลงประชามติระบุว่า คะแนนสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรออกจาก EU อยู่ที่ 51.9% มากกว่าผู้ที่โหวตให้สหราชอาณาจักรยังคงอยู่ใน EU ซึ่งอยู่ที่ 48.1% ซึ่งถือเป็นการชนะแบบเฉียดฉิว

นอกจากนี้ ยังมีหนังสือร้องเรียนฉบับที่ 2 ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงนามมากกว่า 100,000 คนนั้น เรียกร้องให้นายซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนประกาศให้เมืองหลวงของอังกฤษออกจากสหราชอาณาจักร เพื่อที่จะสามารถเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิก EU ได้

โดยหนังสือคำร้องดังกล่าวย์ระบุว่า กรุงลอนดอนเป็นเมืองสากล และ “พวกเราต้องการที่จะเป็นศูนย์กลางของยุโรปต่อไป"

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ การที่อังกฤษตัดสินใจออกจาก EU นั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อแวดลงการเมืองทั่วยุโรปเท่านั้น แต่ยังส่วผลกระทบต่อตลาดหุ้นของยุโรปและตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ