ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) เปิดเผยว่า ยอดเงินกู้ในสกุลดอลลาร์นอกสหรัฐปรับตัวลดลง 0.7% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสแรกของปี 2559 แตะที่ 7.9 ล้านล้านดอลลาร์ ถึงแม้ว่ายอดเงินกู้ในรูปพันธบัตรรัฐบาลจะเพิ่มขึ้น 4% ในช่วงเวลาดังกล่าว
BIS ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวนับเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในระหว่างปี 2550-2552 โดยยอดเงินกู้ในสกุลดอลลาร์ในประเทศตลาดเกิดใหม่และเงินและเงินกู้ในสกุลยูโรนอกเขตยูโรโซนต่างก็ปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการอ่อนค่าลงของสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่
ทั้งนี้ ยอดเงินกู้ในสกุลดอลลาร์ในประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาวะสภาพคล่องในตลาดโลกที่สำคัญ ปรับตัวลดลงแตะ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค. โดยลดลง 1.37 แสนล้านดอลลาร์จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากผลตอบแทนในพันธบัตรรัฐบาลได้อยู่ในระดับที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ จึงส่งผลให้มีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ยอดการออกพันธบัตรรัฐบาลในสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ในไตรมาสแรก