คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีน (CBRC) ได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์เอกชนใหม่ 5 แห่งในพื้นที่กรุงปักกิ่ง ตลอดจนมณฑลเจียงซู จี๋หลิน เหลียวหนิง และซานตง ส่งผลให้จำนวนธนาคารพาณิชย์เอกชนของจีนมีทั้งสิ้น 16 แห่ง
ธนาคารใหม่แต่ละแห่งจะมีผู้จัดหาทุนจากภาคเอกชนร่วมสนับสนุนอย่างน้อย 2 ราย
สำหรับจุดที่น่าสังเกตคือ ในบรรดาธนาคารจัดตั้งใหม่ทั้ง 5 แห่งนี้ จะมี 2 แห่งที่สำนักงานใหญ่จะตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งประกอบด้วยมณฑลเหลียวหนิง จี๋หลิน และเฮย์หลงเจียง มณฑลเหล่านี้ถือเป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิม ซึ่งได้รับผลกระทบหนักสุดจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน
เมื่อเดือนที่แล้ว สภาแห่งรัฐจีนได้ออกเอกสารที่ระบุถึงการฟื้นฟูพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังแนะนำให้มีการตั้งธนาคารพาณิชย์เอกชนอย่างน้อย 1 แห่งภายในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ปีหน้า
สำหรับกระบวนการเตรียมการของธนาคารพาณิชย์เอกชนแห่งใหม่ในเมืองเสิ่นหยาง เมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิงนั้น จะเสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน และต่อมาธนาคารจะยื่นเอกสารขออนุญาตดำเนินงานต่อสำนักงาน CBRC ในเมืองเหลียวหนิง โดยธนาคารแห่งนี้จะให้บริการทางการเงินแก่บริษัทเอกชนและอุตสาหกรรมไฮเทค
ทั้งนี้ คาดว่า ธนาคารเอกชนแห่งใหม่จะช่วยส่งเสริมบริการทางการเงินสำหรับธุรกิจขนาดย่อม เนื่องจากที่ผ่านมา ธนาคารที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของกิจการมักจะให้การสนับสนุนองค์กรรัฐวิสาหกิจด้วยกัน
ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขณะที่การสร้างงานคิดเป็น 80% อย่างไรก็ตามธุรกิจเหล่านี้กำลังเผชิญศึกหนักจากอุปสงค์โลกชะลอตัวและภาวะสินเชื่อที่ตึงตัว
CBRC เปิดเผยว่า มูลค่าสินทรัพย์รวมธนาคารพาณิชย์เอกชน 5 แห่งอยู่ที่ 1.3293 แสนล้านหยวน (ราว 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) นับจนถึงสิ้นเดือนก.ย. อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 0.54% สำนักข่าวซินหัวรายงาน