นายเดวิด โฟลเกิร์ต-แลนดอ หัวหน้านักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ ระบุในรายงานว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโลก
นายโฟลเกิร์ต-แลนดอกล่าวว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากระดับในปัจจุบัน ภายใต้นโยบายของนายทรัมป์ในการผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม, การปฏิรูปภาษีด้วยการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ขณะที่ใช้งบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในการสร้างสะพาน, ถนน และโครงการสาธารณูปโภค
รายงานคาดการณ์ว่า นโยบายของนายทรัมป์จะผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า รวมทั้งผลักดันให้เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 3.0%
เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตเฉลี่ย 1.6% ต่อปีในช่วง 8 ปีที่นายบารัค โอบามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
นอกจากนี้ นายโอบามายังนับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกนับตั้งแต่ปธน.เฮอร์เบิร์ท ฮูเวอร์ ที่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตถึง 3% ในแต่ละปีที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ