ผลสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่พิจารณาเงินกู้ซึ่งจัดทำขึ้นโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พบว่า ในปีนี้ภาคธนาคารอาจมีการผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการปล่อยเงินกู้กับธุรกิจการค้าและบริษัทภาคอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับสินเชื่อบ้าน
อย่างไรก็ดี คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะเดินหน้าคุมเข้มมาตรการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น แม้ว่าเมื่อช่วงที่ผ่านมานั้นเข้มงวดอยู่แล้วจนส่งผลให้ความต้องการเงินกู้ภาคอสังหาฯ อ่อนแรงลง ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายมองว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นเริ่มส่งสัญญาณฟองสบู่แล้ว
นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวยังพบว่า ภาคธนาคารมีความวิตกต่อแนวโน้มสินเชื่อรถยนต์และบัตรเครดิตในปีนี้ โดยน่าจะมีการกวดขันมาตรการการปล่อยสินเชื่อยานยนต์เพิ่มขึ้นอีก
ด้านรัฐบาลสหรัฐเองก็มีท่าทีสนับสนุนการผ่อนคลายข้อกำหนดด้านเงินกู้เช่นกัน โดยไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อยกเครื่องกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐ หลังมีนักธุรกิจบางส่วนซึ่งรู้จักกับปธน.ทรัมป์ร้องเรียนว่าข้อกำหนดเงินกู้เดิมทีนั้นเข้มงวดเกินไป
คำสั่งประธานาธิบดีฉบับนี้เสนอแนวทางปฏิบัติและหลักการสำหรับกฎระเบียบระบบการเงิน และมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังทบทวนกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ (Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต
กฎหมายฉบับนี้มีใจความหลักอยู่ที่การเพิ่มความเข้มงวดในการทำธุรกรรมทางการเงินในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อ การเปิดเผยข้อมูลกองทุนเฮดจ์ฟันด์ การลงทุนของกลุ่มสถาบันการเงิน ไปจนถึงการทำธุรกรรมอนุพันธ์