นักการเมืองฝ่ายค้านในสหรัฐมองว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐสั่งปลดนายเจมส์ โคมีย์ พ้นจากเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ชนิดสายฟ้าแลบนั้น ได้สร้างความฉงนสนเท่ห์ระคนประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย แม้แต่ในรัฐบาลของทรัมป์เอง และเห็นได้ชัดว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ FBI กำลังเดินหน้าสอบสวนความสัมพันธ์ที่ไม่ชอบมาพากลระหว่างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกับทำเนียบเครมลินของรัสเซีย
ในแถลงการณ์ชี้แจงการปลดผอ. FBI กลางอากาศ ซึ่งออกโดยทำเนียบขาวนั้น ระบุไว้ว่า การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์เป็นไปตามคำแนะนำของนายนายเจฟ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายร็อด โรเซนสไตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า นายโคมีย์ขาดคุณสมบัติในการกุมบังเหียนผอ. FBI อีกต่อไป เนื่องจากเขามีความบกพร่องในการตรวจสอบคดีอีเมลอื้อฉาวของนางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นคู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
"ผมไม่อาจปกป้องผอ. FBI จากกรณีที่เขาสรุปคดีในท้ายที่สุดว่า นางฮิลลารีไม่มีความผิดทางอาญา" โรเซนสไตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิก เอลิซาเบธ วอร์เรน จากเดโมแครต ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับเอ็มเอสเอ็นบีซี โดยตั้งข้อสังเกตว่า "นายโคมีย์ไม่ได้ถูกไล่ออกเพราะนางฮิลลารี แต่ด้วยเหตุผลที่เขากำลังตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกับรัฐบาลรัสเซีย
"ดิฉันคิดว่า เวลามันช่างประจวบเหมาะ และชัดเจนมาก ไม่มีใครในอเมริกาหรอกที่เชื่อว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์สั่งไล่เจมส์ โคมีย์ออกเพราะนางฮิลลารี คลินตัน" วอร์เรนกล่าว
ก่อนหน้านี้พลโท ไมเคิล ฟลินน์ ก็ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของปธน.ทรัมป์ สืบเนื่องจากที่เขาได้แอบติดต่อกับรัสเซีย
ขณะที่นายอดัม สคิฟฟ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคเดโมแครต และกรรมาธิการการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า "การสั่งปลดครั้งนี้นับเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน และทำให้เกิดข้อกังขาต่างๆมากมายว่าเป็นการแทรกแซงกระบวนการสืบสวนคดีอาญาอย่างโจ่งแจ้งหรือไม่"
"ปธน.ทรัมป์เห็นว่า การไม่มีนายโคมีย์ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า ผมคิดว่าในเวลานี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องแต่งตั้งอัยการอิสระในทันที" สคิฟฟ์ กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม นางเคลเลียนเน คอนเวย์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ว่า "เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เนื่องจากทรัมป์ไม่เชื่อมั่นในตัวผู้อำนวยการ FBI อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงรับฟังคำแนะนำของรมช. ร็อด โรเซนสไตน์