Spotlight: ผู้เชี่ยวชาญชี้ "มูดี้ส์" หั่นเครดิตจีนถือเป็นการวินิจฉัยที่ผิดพลาด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 25, 2017 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การที่มูดี้ส อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวสกุลเงินหยวนและสกุลเงินต่างประเทศของจีนลงจากระดับ Aa3 สู่ระดับ A1 แต่ในขณะเดียวกันกัน กลับปรับเปลี่ยนแนวโน้มความน่าเชื่อถือจาก "เชิงลบ" (negative) มาเป็น "มีเสถียรภาพ" (stable) นั้น ถือเป็นการวินิจฉัยที่ผิดพลาดอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุในแถลงการณ์ว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนในครั้งนี้ ได้สะท้อนมุมมองการคาดการณ์ที่ว่า "จีนจะสูญเสียความเข้มแข็งทางการเงินในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ สืบเนื่องจากหนี้สินที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราชะลอตัวลง" นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ที่ผ่านมานั้น การดำเนินการปฏิรูปของจีนยังไม่สามารถแก้ปัญหาการขยายตัวของหนี้สาธารณะในระบบเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม นายหลี่ ฝาน ดีลเลอร์อาวุโสของธนาคารแบงก์ ออฟ ไชน่า ได้ออกมาคัดค้านการหั่นเครดิตของมูดี้ส์ในครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นมุมมองเพียงด้านเดียว

เขายกตัวอย่างว่า ประการแรก ค่าประกันความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ (Credit Default Swap : CDS) สำหรับตราสารหนี้รัฐบาลอายุ 5 ปีของจีน ยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 0.80% ในปีนี้ หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.50% ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดทั่วโลกให้การยอมรับในปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน ขณะที่ความเสี่ยงในด้านสินเชื่อก็กำลังลดน้อยลง

ประการต่อมา การที่มูดี้ส์มองว่า มาตรการปฏิรูปของจีนไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะตกอยู่ในภาวะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นการประเมินศักยภาพของรัฐบาลจีนที่ต่ำเกินไปในแง่ของการปฏิรูปโครงสร้างและกระตุ้นการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ

นักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจจีนยังคงมีเสถียรภาพและมีพลังขับเคลื่อนในทิศทางบวกในปี 2560 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน ขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 1/2560

ประการที่สาม การที่มูดี้ส์ลงความเห็นว่า การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ และตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินของรัฐบาลท้องถิ่น (Local Government Financing Vehicles) รวมถึงการลงทุนโดยรัฐวิสาหกิจ คือปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้หนี้สินของจีนพอกพูนขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมนั้น เป็นมุมมองที่คับแคบ และปราศจากความรู้ในกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆของจีนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นข้อสรุปดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลง 1 ขั้น แต่ในขณะเดียวกันกลับปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือให้สูงขึ้นนั้น ถือเป็นการดำเนินการทางเทคนิคของมูดี้ส์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสมดุลและความยุติธรรมในการจัดอันดับของมูดี้ส์

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สถาบันต่างๆและสื่อตะวันตกหลายแห่งต่างรายงานโดยอ้างถึงปัจจัยเสี่ยงในภาคสินเชื่อของจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มูดี้ส์ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่ระดับ "เชิงลบ" อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนกลับขยายตัวดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด

นักวิเคราะห์บางคนกล่าวด้วยว่า ถึงแม้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตะวันตกจะมีอิทธิพลต่อตลาดสินเชื่อมาอย่างยาวนาน ทว่า วิธีการในการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันเหล่านี้ ยังคงมีความบกพร่องและให้ผลลัพธ์ที่น่ากังขา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ