มนตรีแห่งรัฐจีนเผย Belt and Road Forum บรรลุเป้า ยึดความร่วมมือแบบได้ชัยชนะร่วมกัน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 26, 2017 15:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายหยาง เจี๋ยฉือ มนตรีแห่งรัฐได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่เรือนรับรองเตียวหยูไถ่ กรุงปักกิ่ง โดยชี้แจงผลสำเร็จของการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ว่า รัฐบาลจีนได้บรรลุเป้าหมายในการจัดการประชุมเป็นอย่างดี เนื่องจากความทุ่มเทร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายหยางเปิดเผยว่า เป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือ การกระชับความเข้าใจร่วมกัน การเสริมสร้างจุดเชื่อมต่อของยุทธศาสตร์การพัฒนา กระชับความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นส่วนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อให้บรรลุชัยชนะและผลประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้แล้ว จีนในฐานะเจ้าภาพและผู้ริเริ่มโครงการ Belt and Road มองว่า การประชุมครั้งนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายประการอีกด้วย เช่น การชี้แจงความสำเร็จในด้านต่าง ๆ 3 ประการ ซึ่งประกอบด้วย การผลักดันให้มีการกำหนดทิศทางความร่วมมือตามแนวทาง Belt and Road ในอนาคตให้แน่ชัดยิ่งขึ้น การกำหนดแผนที่เส้นทางการสร้าง Belt and Road อย่างเฉพาะเจาะจง ระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และการกำหนดโครงการหลักจำนวนหนึ่งที่กำลังจะดำเนินการตามข้อริเริ่ม Belt and Road โดยรายการความสำเร็จระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งผ่านเวทีการประชุมฯ นี้มีทั้งสิ้น 5 ประเภทใหญ่ 76 โครงการใหญ่ และ 270 กว่าโครงการย่อย

ขณะเดียวกัน จีนยังได้เสนอมาตรการใหม่ๆในด้านต่างๆ อาทิ การประสานนโยบายรัฐและยุทธศาสตร์การพัฒนา การผลักดันการสร้างระเบียงเศรษฐกิจ การเสริมสร้างความร่วมมือในโครงการสำคัญ การเพิ่มความสนับสนุนด้านเงินทุน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศเพิ่มเงินทุน 100,000 ล้านหยวนให้กับกองทุนเส้นทางสายไหม ส่งเสริมให้สถาบันการเงินดำเนินธุรกิจกองทุนในต่างประเทศเป็นสกุลเงินหยวน เงินทุนเหล่านี้จะดำเนินการไปตามกลไกตลาดโดยมุ่งเน้นไปที่ภาคธุรกิจเป็นหลักเพื่อให้การสนับสนุนด้านเงินทุนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นแก่การพัฒนาโครงการ Belt and Road

นายหยางกล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงหลักการ “สามร่วม" กล่าวคือ การร่วมหารือ ร่วมสร้าง และร่วมแบ่งปัน ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในความร่วมมือระหว่างประเทศของข้อริเริ่ม Belt and Road และดำเนินไปอย่างเปิดกว้าง ผ่อนปรน เป็นประชาธิปไตยและมีความโปร่งใส

ในด้านผลสำเร็จของการประชุม ฉันทามติของทุกฝ่ายได้ถูกรวบรวมไว้ในแถลงการณ์ร่วม โดยประเทศจีนและประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุม Round-Table Summit

สำหรับทิศทางความร่วมมือขั้นต่อไปของนโยบายนี้จะเป็นไปอย่างรอบด้าน ซึ่งนายหยางระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะสร้างให้ Belt and Road กลายเป็นเส้นทางแห่งสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง การเปิดกว้าง นวัตกรรม และอารยธรรม โดยจีนจะดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่โดยยึดความร่วมมือแบบได้ชัยชนะร่วมกันเป็นศูนย์กลาง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นส่วนแบบเจรจาแต่ไม่สร้างความขัดแย้ง แบบเป็นเพื่อนแต่ไม่เป็นพันธมิตร มุ่งเน้นพัฒนาในจุดที่เป็นปัญหาพื้นฐาน ผลักดันการสร้างระเบียงเศรษฐกิจ กระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการเชื่อมโยงระหว่างกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปรับปรุงระบบหลักประกันทางการเงินให้สมบูรณ์ สร้างเวทีความร่วมมือที่เปิดกว้าง สร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจซึ่งเปิดกว้าง มีความยืดหยุ่น เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม มีสมดุล และได้ผลประโยชน์ร่วมกัน และจะยืนหยัดในการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้นวัตกรรมขับเคลื่อนการพัฒนา สร้างกลไกความร่วมมือเชิงวัฒนธรรมในหลายระดับ รวมไปถึงการรังสรรค์โครงการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสังคมอย่างยืดหยุ่นผ่อนปรน

งานประชุมดังกล่าวมีบทบาทต่อการส่งเสริมการพัฒนาและการปฏิรูปเปิดเสรีในเชิงลึกของจีน เนื่องจากทุกหน่วยงานของจีน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน คลังสมอง และสื่อมวลชนต่างได้กระตือรือร้นต่อการปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าวซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนอันเข้มแข็งให้กับนโยบายนี้และเติมพลังงานใหม่ให้กับการพัฒนาในประเทศกับการปฏิรูปเพื่อเปิดเสรีอย่างรอบด้าน

มนตรีแห่งรัฐกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ การบูรณาการ Belt and Road เข้ากับยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับภูมิภาค อาทิ แถบเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง เขตเศรษฐกิจปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย และการเชื่อมโยงเข้ากับเมืองเปิดเลียบชายฝั่งทะเล แผนฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeast Revitalization Plan) แผนพัฒนาภาคกลาง (Rise of Central China) และการบุกเบิกพัฒนาพื้นที่รายทาง ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการปฏิรูปเปิดเสรีในเชิงลึกของจีนให้เป็นไปในรูปแบบที่เปิดกว้างรอบด้าน และสามารถเชื่อมโยงการพัฒนาระหว่างภาคตะวันออก-กลาง-ตะวันตกของจีนเข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย

นายหยางเชื่อว่า เมื่อโครงการ Belt and Road ก้าวเข้าสู่ช่วงแห่งความร่วมมือในทางปฏิบัติอย่างรอบด้าน การมีส่วนร่วมในเชิงลึกและวงกว้างของทุกภาคส่วนในจีนมากยิ่งขึ้น จะสร้างคุณประโยชน์สำคัญแก่การพัฒนาของจีนและทั่วโลก

ภายหลังการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปี 2555 จีนได้เป็นเจ้าภาพงานทางการทูตโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในปี 2557 จีนจัดการประชุมผู้นำเอเปค ในปี 2559 จัดการประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองหางโจว โดยการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ถือเป็นครั้งล่าสุดในปี 2560 ทั้งนี้เนื่องจาก จีนมีความกระตือรือร้นที่จะเสาะหาทางออกให้กับเศรษฐกิจโลก โดยมุ่งมั่นปฏิบัติตามแนวทางความร่วมมือแบบได้ชัยชนะร่วมกัน ผลักดันการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์หุ้นส่วนระดับโลก ทุ่มเทสร้างเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง มีความคิดริเริ่มและเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้เพื่อจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นให้กับการพัฒนาของจีน สร้างคุณประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้นให้แก่การพัฒนาของโลก นายหยางกล่าว

สำหรับการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งที่สองนั้น จะจัดขึ้นในปี 2562 เนื่องจากหลายฝ่ายได้เสนอแนะให้มีการจัดการประชุมดังกล่าวเป็นประจำและมีการกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ