อัตราการขยายตัวของค่าแรงอังกฤษยังคงตามหลังอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้โอกาสที่เจ้าหน้าที่นโยบายการเงินจะเริ่มต้นกระบวนการปรับอัตราดอกเบี้ยสู่ภาวะปกตินั้น ลดน้อยลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ค่าแรงเฉลี่ยต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่รวมโบนัส พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ได้ทิ้งห่างอัตราการขยายตัวของค่าแรงมาหลายเดือนแล้ว โดยปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อทิ้งห่างจากการขยายตัวของค่าแรงราว 1% และยังเป็นปัจจัยที่จำกัดการใช้จ่ายและการออมเงินของภาคครัวเรือนด้วยเช่นกัน
นายซามูเอล ทอมบ์ส หัวหน้าเศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจอังกฤษ ของแพนธีออน มาโครอีโคโนมิคส์ เปิดเผยกับซินหัวว่า ข้อมูลค่าแรงจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงท่าทีทางการเงินใดๆของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (MPC)
นอกจากนี้ ดัชนี CPI ที่สูงขึ้นไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ แต่เป็นผลจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์ สืบเนื่องจากสถานการณ์อังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ด้วยเหตุนี้ ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายปี จึงไม่ใช่จุดเริ่มต้นของความร้อนแรงทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด
นายทอมบ์สเปิดเผยว่า อัตราการโตของค่าแรงจะทรงตัวที่ระดับ 2% ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
สถานการณ์ตลาดแรงงานที่ชะงักงัน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอน Brexit และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เมื่อวานนี้ ONS เปิดเผยด้วยว่า อัตราว่างงานอังกฤษแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2518
สำหรับอัตราว่างงานของอังกฤษอยู่ที่ 4.5% ซึ่งต่ำกว่าประเทศกลุ่ม EU ทั้งหมดยกเว้นเพียง 4 ประเทศ และต่ำกว่าอัตราว่างงานของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาคู่เปรียบเทียบด้วย