หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า เวลส์ ฟาร์โก ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เตรียมตัดขายธุรกิจบางส่วนเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน หลังธนาคารเผชิญกับกรณีอื้อฉาวปีที่แล้ว
นายจอห์น โชรส์เบอรี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเวลส์ ฟาร์โก กล่าวว่า "ธุรกิจของเรามีขนาดเล็กลงเล็กน้อย ซับซ้อนน้อยลง ซึ่งเราสามารถเน้นทำธุรกิจในขอบข่ายที่เราเชี่ยวชาญ"
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเวลส์ ฟาร์โก จากการที่ทางธนาคารถูกสอบสวนในคดีอาญา และถูกปรับเป็นเงิน 185 ล้านดอลลาร์ กรณีที่พนักงานสร้างบัญชีลูกค้าปลอมจำนวนกว่า 2 ล้านบัญชีเพื่อเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงินของธนาคาร
เหตุการณ์อื้อฉาวดังกล่าวส่งผลให้เวลส์ ฟาร์โก ตัดสินใจปลดพนักงาน 5,300 คนที่เกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์พ่วงผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย หรือที่เรียกว่า ครอสเซลลิ่ง (Cross Selling) ซึ่งหลังจากนั้นนายจอห์น สตัมฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
ล่าสุดธนาคารเวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยว่า ศาลแคลิฟอร์เนียได้อนุมัติข้อตกลงระงับคดีในระดับเบื้องต้นเป็นวงเงิน 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในคดีความระหว่างทางธนาคารกับกลุ่มลูกค้าที่ถูกปลอมบัญชี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันเวลส์ ฟาร์โก มีพนักงานประมาณ 273,000 คน โดยดำเนินธุรกิจรวมกันประมาณ 90 ประเภท โดยแผนการตัดขายธุรกิจบางส่วนนี้มีขึ้นเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ถูกบั่นทอนด้วยกรณีอื้อฉาวดังกล่าว