คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยตัวเลขการผลิตเหล็กกล้าดิบในระหว่างเดือนม.ค.-ส.ค. ประจำปี 2560 โดยระบุว่าอยู่ที่ 566.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบรายปี ต่างจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วที่ลดลง 0.1%
ขณะเดียวกัน ราคาเหล็กกล้ายังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีราคาเหล็กกล้าภายในประเทศเพิ่มขึ้น 7.9 จุดจากเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แตะที่ 112.77 จุดในเดือนส.ค. และเพิ่มขึ้น 37.51 จุดจากปีที่ผ่านมา
สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) ระบุว่า สาเหตุที่ราคาเหล็กกล้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากต้นทุนสินแร่เหล็กที่สูงขึ้น ประกอบกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและอุปทานที่ลดลง อันเป็นผลมาจากมาตรการลดกำลังการผลิตส่วนเกินและการเพิ่มการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลจีน
CISA ระบุว่า การควบคุมการผลิตและการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมในฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้พลังงานสูงนั้น จะส่งผลกระทบต่ออุปทานในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี การขยายขีดความสามารถในการแข่งขันจะช่วยสกัดราคาเหล็กกล้าที่พุ่งสูงขึ้นได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่ผ่านมาในปีนี้ จีนมีความพยายามในการปิดโรงงานขนาดเล็กที่ผลิตเหล็กกล้าคุณภาพต่ำจากเศษเหล็ก ซึ่งคิดเป็น 4% ของปริมาณการผลิตเหล็กกล้าทั้งหมดในจีน ตามเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่จะลดกำลังการผลิตส่วนเกิน แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงโรงงานเหล่านี้ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีขึ้น