ประธานสภาธุรกิจออสเตรเลียเรียกร้องรัฐบาลปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล

สภาธุรกิจออสเตรเลีย (BCA) ออกแถลงการณ์เตือนว่า ออสเตรเลียจะกลายเป็นประเทศที่เก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราสูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หากรัฐบาลยังไม่ยอมปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคล

ทั้งนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลของออสเตรเลียอยู่ที่ 30% ซึ่งสูงเป็นอันดับ 5 ในบรรดาประเทศสมาชิกกลุ่มองค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD)

นางเจนนิเฟอร์ เวสตาคอทท์ ประธานบริหาร (ซีอีโอ) ของ BCA กล่าวว่า "ออสเตรเลียจะกลายเป็นประเทศที่เก็บภาษีนิติบุคคลสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่ม OECD เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสและสหรัฐปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลง โดยในขณะที่สหรัฐและฝรั่งเศสกำลังปรับลดภาษีนิติบุคคลเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในแข่งขันนั้น ออสเตรเลียกลับต้องอยู่กับอัตราภาษีที่ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงมานานถึง 16 ปี" ทั้งนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลของประเทศในกลุ่ม OECD โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 24% และกำลังปรับตัวลดลง ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศเอเชีย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 21%

นางเวสตาคอทท์กล่าวว่า "การดำเนินการปรับลดภาษีที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้วุฒิสภาออสเตรเลียตระหนักว่าออสเตรเลียจะเผชิญกับความยากลำบากหากไม่มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้สอดคล้องกับประเทศอื่นๆทั่วโลก"

การแสดงความเห็นของนางเวสตาคอทท์ในครั้งนี้เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อนายสก็อตต์ มอร์ริสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เร่งดำเนินการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ได้เสนอให้มีการปรับลดอัตราภาษีในระยะเวลา 10 ปี แต่ข้อเสนอดังกล่าวต้องเผชิญกับปัญหาติดขัดเนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่นางเวสตาคอทท์มองว่าข้อเสนอของนายกรัฐมนตรียังคงไม่เพียงพอ