World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 14, 2017 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยคาดว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอาจเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 นอกจากนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภายังมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในสัปดาห์นี้

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กำลังจะเสร็จสิ้นการเยือนเอเชียในวันนี้ โดยปธน.ทรัมป์จะปิดท้ายการเยือนเอเชียด้วยการเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ฟิลิปปินส์

--สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ขยายตัว 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดค้าปลีกในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค. ขยายตัว 10.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี

การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ขยายตัว 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 6.6%

การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 7.3% ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ซึ่งมีการขยายตัว 7.5%

การลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งลดลงจากระดับ 8.1% ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้

--กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานประจำเดือนพ.ย.ระบุว่า ประเทศต่างๆทั่วโลกจะมีความต้องการใช้น้ำมันโอเปกในปีหน้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 33.42 ล้านบาร์เรล/วัน โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 360,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้

การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันของโอเปก นับตั้งแต่ที่มีการประเมินครั้งแรกในเดือนก.ค.

ทางด้านนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกกล่าวว่า นักลงทุนไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันจะแตะระดับสูงสุดก่อนปี 2583

--นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในอังกฤษ หลังส.ส.อังกฤษเตรียมยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เทเรซา เมย์ ซึ่งถือเป็นการกดดันนางเมย์ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ

ขณะที่คณะรัฐบาลของนางเมย์ก็เผชิญสถานการณ์รุมเร้าเช่นกัน โดยในสัปดาห์ที่แล้ว นางพริที พาเทล รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษ ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีรายงานว่า เธอแอบติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลอิสราเอล ไม่กี่วันก่อนหน้านั้น นายมิเชล ฟอลลอน ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม จากการถูกตั้งข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิง

เจ้าหน้าที่เยอรมนีได้ออกมาแสดงความกังวลว่าอังกฤษจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการการแยกตัวออกจาก EU (Brexit) โดยนายโทมัส สเตฟเฟน รมช.คลังเยอรมนี เปิดเผยว่า ตนมองไม่เห็นความคืบหน้าในการเจรจา

--ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูดที่บริเวณชายแดนระหว่างอิหร่านและอิรัก พุ่งขึ้นเป็น 445 ราย และบาดเจ็บราว 7,156 ราย

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูดที่บริเวณชายแดนระหว่างอิหร่านและอิรัก เมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หรือในช่วงเช้าตรู่วันจันทร์ตามเวลาไทย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่บริเวณเทือกเขาซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฮาลับจา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิรักประมาณ 32 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 23.2 กิโลเมตร

-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนีในวันนี้

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Communication challenges for policy effectiveness, accountability and reputation" โดยมีนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB, นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าร่วมด้วย

--นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐ โดยในวันนี้สหภาพยุโรป (EU) จะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งที่ 2) และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ขณะที่เยอรมนีจะรายงานจีดีพีไตรมาส 3 และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. อังกฤษจะรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ