World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 15 มกราคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 15, 2018 08:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงธนาคารเจพีมอร์แกน เชส, แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,803.19 จุด เพิ่มขึ้น 228.46 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,786.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.68 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,261.06 จุด เพิ่มขึ้น 49.28 จุด หรือ +0.68%

-- เจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยายได้ 2.545 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.76 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ด้านนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ของเจพีมอร์แกนจะอยู่ที่ระดับ 2.515 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.69 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่เวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยรายได้ 2.205 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.16 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ด้านนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ของเวลส์ฟาร์โกจะอยู่ที่ 2.238 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนแบล็คร็อคเปิดเผยกำไร 6.24 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.02 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้ 3.469 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.321 พันล้านดอลลาร์

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. และหากเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค. ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ย.

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และไตรมาส 1 ของปีนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนธ.ค.เมื่อวันศุกร์

เฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ Nowcast แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.88% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยต่ำกว่าเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.97% ที่ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน

นอกจากนี้ แบบจำลองยังแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.21% ในไตรมาส 1 ของปีนี้ โดยต่ำกว่าเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.45% ที่ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน

-- นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐมีแนวโน้มต่ำลงกว่าระดับ 4% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่สหรัฐมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และสิ่งนี้บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

นายแคปแลนระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะร้อนแรงจนเกินไป ซึ่งการที่เฟดค่อยๆถอนตัวออกจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน จะช่วยให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ นายแคปแลนยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.75%

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่ได้ใช้ถ้อยคำที่เสื่อมเสียเกี่ยวกับชาวเฮติ นอกจากกล่าวว่าเฮติเป็นประเทศที่ยากจนมาก และมีปัญหามาก

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ในระหว่างการประชุมกับสมาชิกสภาคองเกรสเกี่ยวกับการป้องกันผู้อพยพจากเฮติ, เอล ซัลวาดอร์ และประเทศจากแอฟริกาเดินทางเข้าสู่สหรัฐ ปธน.ทรัมป์ตั้งคำถามว่า "ทำไมเราต้องให้คนพวกนี้จากประเทศโสโครก (shithole countries) เดินทางมาที่นี่ด้วย แทนที่จะเป็นคนจากนอร์เวย์"

"ภาษาที่ผมใช้ในการประชุม DACA (โครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ) มีความรุนแรง แต่นี่ไม่ใช่ภาษาที่ผมใช้ และสิ่งที่รุนแรงจริงๆคือข้อเสนอที่มีการเสนอมา ซึ่งทำให้โครงการ DACA ก้าวถอยหลัง" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

คำกล่าวของปธน.ทรัมป์ทำให้สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการใช้คำพูดของปธน.ทรัมป์

-- โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษยินดีให้การต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเขาได้ตอบรับคำเชิญแล้ว

"เราได้ส่งคำเชิญ และปธน.ทรัมป์ก็ได้ตอบรับ "สหรัฐเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เก่าแก่ และมีคุณค่าที่สุดของเรา ซึ่งความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและลึกซึ้งนี้จะยั่งยืนต่อไป"" โฆษกกล่าว และเสริมว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันกำหนดวันเดินทางเยือนอังกฤษของปธน.ทรัมป์

คำกล่าวของโฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า สาเหตุที่เขายกเลิกแผนการเดินทางเยือนอังกฤษในเดือนหน้า เป็นเพราะเขาไม่ต้องการเป็นผู้ทำพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน เนื่องจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาตัดสินใจผิดพลาดในการขายสถานทูตสหรัฐที่ตั้งอยู่ในทำเลดีในราคาถูก แต่กลับมาสร้างสถานทูตใหม่ในที่ดินที่มีราคาแพง และตั้งในทำเลที่ไม่ดี

-- เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีกำหนดเจรจากันในวันนี้ เกี่ยวกับตัวแทนนักกีฬาของเกาหลีเหนือที่จะเป็นตัวแทนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนหน้า โดยสำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ เช่น จำนวนนักกีฬาของเกาหลีเหนือที่จะถูกส่งเข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ในการแข่งขัน

-- สื่อเยอรมนีรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว

แกนนำของทั้ง 3 พรรคจะนำรายละเอียดของข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายในประเด็นสำคัญต่างๆจำนวน 28 หน้าเสนอแก่สมาชิกพรรค ซึ่งพรรค SPD จะมีการประชุมสมาชิกพรรคในวันที่ 21 ม.ค. หากที่ประชุมให้การรับรองนโยบายเหล่านี้ และเห็นพ้องที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค CDU/CSU ก็จะถือเป็นการสิ้นสุดภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองของเยอรมนีนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ในข้อตกลงที่แกนนำทั้ง 3 พรรคเห็นพ้องกันนั้น พวกเขาตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นภาษี และจะจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศให้อยู่ในช่วง 180,000-220,000 คนต่อปี รวมทั้งตกลงที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหภาพยุโรป (EU) ด้วยการให้เยอรมนีสมทบเงินช่วยเหลือ EU มากขึ้น

-- ตลาดการเงิน และหน่วยงานราชการของสหรัฐ ปิดทำการในวันนี้ (15 ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆตลอดทั้งสัปดาห์นี้ที่นักลงทุนให้ความสนใจ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆนั้น นักลงทุนจับตาอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ของออสเตรเลีย ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนเดือนธ.ค., เยอรมนีและอังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.

ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ