World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 10 เมษายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 10, 2018 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ก่อนจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ลดแรงบวกในช่วงท้ายตลาด หลังจากวอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานของนายไมเคิล โคเฮน ทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกับยึดเอกสารต่างๆ ซึ่งรวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินให้กับนักแสดงสาวคนหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีความสัมพันธ์กับปธน.ทรัมป์

-- เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานของนายไมเคิล โคเฮน ทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกับยึดเอกสารต่างๆ ซึ่งรวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินให้กับนักแสดงหนังผู้ใหญ่รายหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีความสัมพันธ์กับปธน.ทรัมป์

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า เอกสารส่วนหนึ่งที่ถูกยึดนั้นได้แก่เอกสารที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนสูงถึง 130,000 ดอลลาร์ ที่นายโคเฮนแอบจ่ายให้กับนางสเตฟานี คลิฟฟอร์ด หรือที่รู้จักในชื่อสตอร์มมี แดเนียลส์ นางเอกหนังผู้ใหญ่ที่ถูกระบุว่ามีความสัมพันธ์กับปธน.ทรัมป์ในปี 2549

รายงานข่าวระบุว่า นายโคเฮนได้จ่ายเงินให้กับนักแสดงผู้นี้ เพื่อให้เธอปิดปากเงียบเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้ เมื่อไม่กี่วันก่อนสหรัฐเปิดฉากการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 โดยนายโคเฮนได้ปฏิเสธไม่ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายการเงินสำหรับการหาเสียง

-- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) ที่มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของจีน ในวันนี้ โดยนายสีกล่าวว่า จีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ และภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆบางประเภท ในปีนี้

นอกจากนี้ นายสีกล่าวว่า จีนจะเพิ่มความแข็งแกร่งในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า สหรัฐจะทำการตัดสินใจครั้งสำคัญเกี่ยวกับซีเรียภายในเวลา 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า หลังจากที่ออกมาขู่ก่อนหน้านี้ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรียจะต้องชดใช้อย่างสาสม จากเกิดเหตุการณ์โจมตีด้วยอาวุธเคมีต่อฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎซีเรีย จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่รัฐบาลซีเรียได้ออกมาปฏิเสธว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรียไม่ได้ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน

-- กองทัพรัสเซียแถลงว่า ไม่พบร่องรอยที่แสดงว่ามีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมาของซีเรีย หลังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของกองทัพรัสเซียได้ตรวจสอบผู้ป่วยในโรงพยาบาลในเมืองดูมา ซึ่งไม่พบว่ามีอาการเจ็บป่วยจากอาวุธเคมีแต่อย่างใด

คำแถลงดังกล่าวของกระทรวงกลาโหมรัสเซียสวนทางกับโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษที่กล่าวว่า อังกฤษและสหรัฐเห็นพ้องกันว่าเหตุการณ์โจมตีกลุ่มกบฏในซีเรียด้วยอาวุธเคมีมีหลักฐานบ่งชี้เหมือนกับการโจมตีครั้งก่อนหน้านี้ว่าเป็นฝีมือของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ตนมีแผนที่จะพบนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในเดือนหน้า หรือต้นเดือนมิ.ย. และหวังว่าการพบปะหารือกันดังกล่าวจะทำให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ในที่สุด พร้อมระบุด้วยว่า "ผมหวังว่าความสัมพันธ์ของสหรัฐและเกาหลีเหนือจะแตกต่างจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา"

-- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มปฎิบัติหน้าที่ต่อเป็นสมัยที่ 2 แล้ว เมื่อวานนี้ โดยเปิดเผยว่า BOJ มีภารกิจที่ต้องทำอีกมากในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการพิจารณาวิธีการปรับนโยบายให้เป็นไปตามที่วางเอาไว้ พร้อมระบุด้วยว่า BOJ จะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ และต้องพิจารณากระบวนการในการปรับนโยบายการเงินให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

-- นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย มีคำสั่งให้รัฐบาลจัดเตรียมแผนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐ หลังจากที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และมีคำสั่งให้รัฐบาลจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือบริษัทของรัสเซียที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐต่อรัสเซียเริ่มส่งผลกระทบในวันนี้ โดยตลาดหุ้นรัสเซียค่าเงินรูเบิล และบริษัทที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรต่างทรุดตัวลงอย่างหนัก

-- แผนการขนาดใหญ่ของจีนในการฟื้นฟูเส้นทางการค้าเชื่อม 3 ทวีป ระหว่างเอเชีย แอฟริกา และยุโรปมีความคืบหน้าไปมาก นับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนประกาศได้เปิดตัวโครงการเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยบางโครงการกำลังดำเนินการอยู่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อก่อสร้างทางรถไฟ ถนน ท่าเรือและโรงไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้ก็ก่อให้เกิดข้อถกเถียงเป็นวงกว้างถึงความเสี่ยงจากหนี้ที่เพิ่มขึ้น การหลั่งไหลของแรงงานชาวจีนที่ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับคนในพื้นที่ ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับรูปแบบการปกครองในแต่ละภูมิภาค และอาจไม่ประสบความสำเร็จทุกโครงการ ด้านผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านเอเชียใต้จาก Woodrow Wilson Center ของสหรัฐเปิดเผยว่า มีทั้งโครงการที่ประสบความสำเร็จและจะเกิดขึ้นเรื่อยๆแต่ก็มีส่วนที่ล้มเหลวด้วยเช่นกัน

-- สายการบินลุฟท์ฮันซ่าประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า 800 เที่ยวในวันนี้ หลังจากที่พนักงานเตรียมทำการผละงานประท้วงเพื่อให้มีการปรับเพิ่มค่าจ้าง โดยคากว่าการผละงานดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวน 90,000 คน ขณะที่ลุฟท์ฮันซ่าคาดหวังว่าการให้บริการจะกลับสู่ภาวะปกติในวันพุธนี้ ทั้งนี้ Ver.di ซึ่งเป็นสหภาพแรงงาน ได้เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารขึ้นค่าจ้าง 6% แก่พนักงาน

-- บิตคอยน์ดิ่งลงกว่า 6% ต่ำกว่าระดับ 7,000 ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า บิตคอยน์ถูกกระทบจากการที่นักลงทุนแห่ขายเพื่อหาเงินสดไปชำระภาษีในเดือนนี้

บิตคอยน์ได้ทรุดตัวลงเกือบ 30% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และดิ่งลงมากกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปีนี้ หลังจากพุ่งเหนือระดับ 14,000 ดอลลาร์ในต้นเดือนม.ค.

-- ฮาลิแฟกซ์ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษพุ่งขึ้น 2.7% ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. หลังจากปรับตัวขึ้นในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปีในช่วงเดือนธ.ค.-ก.พ.

เมื่อพิจารณาเฉพาะเดือนมี.ค. ราคาบ้านดีดตัวขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านยังคงชะลอตัวอย่างมาก เมื่อเทียบกับก่อนช่วงการทำประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในปี 2559 ซึ่งขณะนั้นราคาบ้านพุ่งขึ้นราว 10% ต่อปี

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ตลาดจับตาในวันนี้ ได้แก่ เนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ของออสเตรเลีย จะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมี.ค. ขณะที่ฝรั่งเศสจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมี.ค. ขณะที่ออสเตรเลียจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากเวสต์แพค ส่วนจีนเตรียมเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. ด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ