ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศกลุ่ม G20 ได้แสดงความกังวลว่า ข้อพิพาทด้านการค้าอาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้ออกมาตรการที่เฉพาะเจาะจงในการจัดการกับเรื่องดังกล่าว
การประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยแม้ว่าที่ประชุมไม่ได้ออกมาตรการที่เฉพาะเจาะจงในการคลี่คลายข้อพิพาทด้านการค้า แต่ก็ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาด้านการค้าผ่านช่องทางการเจรจาและการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมระบุว่า การหารือในเรื่องดังกล่าวจะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในการประชุมครั้งหน้าซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในเดือนก.ค.นี้
รัฐมนตรีคลังอาร์เจนตินาเปิดเผยว่า แม้รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ต่างก็เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการค้า แต่ที่ประชุมก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับบทบาทของระบบพหุภาคีที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาด้านการค้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ตลาดการเงินอาจจะได้รับจากการที่สหรัฐและยุโรปดำเนินโยบายคุมเข้มทางการเงินรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งยังหารือเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในซีเรีย หลังจากที่สหรัฐและชาติพันธมิตรได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน โดยสหรัฐเชื่อว่า รัสเซียเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลซีเรียในครั้งนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอาโสะได้หารือในระดับทวิภาคีนอกรอบการประชุม G20 กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ โดยนายอาโสะได้แสดงความกังวลต่อกรณีที่คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ยังคงเดินหน้านโยบายกีดกันการค้า ซึ่งในโอกาสนี้ นายอาโสะได้เรียกร้องให้สหรัฐยกเว้นการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากญี่ปุ่น
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป