World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 22, 2018 09:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว โดยปัจจัยบวกดังกล่าวได้ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 25,000 จุดได้อีกครั้ง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กเช่นกัน

-- คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐประกาศไม่ยอมรับชัยชนะการเลือกตั้งของนายนิโคลัส มาดูโร หลังรั้งตำแหน่งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาได้เป็นสมัยที่ 2 และกำลังพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา ขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงรัฐบาลชิลีที่ออกแถลงการณ์โจมตีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาขาดความชอบธรรม ไม่มีความโปร่งใส และไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

ทางด้านนายเฮนรี ฟอลคอน และนายคาเวียร์ เบตุชชี สองผู้สมัครคู่แข่ง รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ได้ออกมาบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ โดยอ้างว่ามีการกระทำที่ส่อถึงการทุจริตเลือกตั้งและเอื้อประโยชน์ต่อนายมาดูโร

-- นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐแถลงว่า สหรัฐจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ต่ออิหร่าน ด้วยแรงกดดันทางการเงินแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และอิหร่านจะต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศอยู่รอดหลังบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร แต่ยื่นข้อเสนอว่าหากอิหร่านยินยอมปฎิบัติตามข้อกำหนดที่มีความเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้ง การยุติโครงกาขีปนาวุธและยุติการแทรกแซงความขัดแย้งในภูมิภาค ทั้งในเยเมนและซีเรีย สหรัฐจะพิจารณายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรใหม่นี้

ทางด้านนายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านออกแถลงการณ์ตอบโต้ระบุว่า ทั้งโลกไม่ยอมรับการตัดสินใจของสหรัฐในนามของพวกเขาอีกต่อไปและสหรัฐคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงจะมาตัดสินใจแทนอิหร่านและทั้งโลก ด้านนายจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่านประณามสหรัฐ โดยกล่าวว่ามาตรการของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าสหรัฐตกเป็นนักโทษของนโยบายที่ล้มเหลวและจะต้องเผชิญกับผลกระทบที่ตามมาอย่างแน่นอน

-- นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของสหรัฐได้เตือนนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือว่าอย่าล้อเล่นกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ หากทั้งคู่พบกันในการประชุมสุดยอดซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้

ทั้งนี้ นายเพนซ์กล่าวว่า "จะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงสำหรับนายคิมถ้าคิดว่าสามารถล้อเล่นกับประธานาธิบดีทรัมป์" และผู้นำสหรัฐอาจจะถอนตัวจากการประชุมดังกล่าวด้วย หลังจากที่เกาหลีเหนือแสดงท่าทีขู่คว่ำการประชุม เนื่องจากไม่พอใจนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐที่ให้ความเห็นว่าควรใช้ "ลิเบีย โมเดล" ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

-- นางจีน่า แฮสเปล อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้อำนวยการ CIA แล้วเมื่อวานนี้ นับเป็นผู้อำนวยการหญิงคนแรกของ CIA นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรมานาน 71 ปี

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 54-45 ให้การรับรองนางแฮสเปลขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ CIA ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีวุฒิสมาชิกบางส่วนคัดค้านการแต่งตั้งนางแฮสเปล เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งคุกลับในไทยปี 2545 เพื่อคุมขังและทรมานนักโทษของ CIA ที่พัวพันกับการก่อการร้าย และมีการทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทรมานนักโทษ โดยในการชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภา นางแฮสเปลยืนยันว่า ตนจะไม่นำวิธีทรมานนักโทษกลับมาใช้อีก และแม้ปธน.ทรัมป์ออกคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ขัดต่อจริยธรรม ตนก็จะไม่ปฏิบัติตาม

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า จีนได้ให้สัญญาที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่จีนให้สัญญาที่จะซื้อจากสหรัฐแต่อย่างใด

การทวีตข้อความของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว และทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาดุลการค้าในอนาคต

-- นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่พระราชวัง เมื่อวานนี้ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะนำพาให้มาเลเซียกลับสู่ความยิ่งใหญ่ในอดีต

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า รัฐบาลของเขาจะประกอบด้วยคณะรัฐมนตรีจำนวนไม่มากนัก โดยมีรัฐมนตรีเพียง 25 ราย ส่วนนางวาน อาซีซาห์ วาน อิสมาอิล ซึ่งเป็นประธานพรรคพีเพิลส์ จัสติส จะเป็นรองนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ รวมทั้งจะรับตำแหน่งรัฐมนตรีพัฒนาสตรีและครอบครัว

ทั้งนี้นายมหาธีร์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาอาจดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 1-2 ปี ก่อนที่จะเปิดทางให้นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตผู้นำฝ่ายค้าน เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

-- นายอาห์เหม็ด อาบูล เกอิต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ กล่าวประณามปารากวัย ซึ่งทำพิธีเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงเยรูซาเลม เมื่อวานนี้ พร้อมกับเตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างชาติอาหรับและปารากวัย พร้อมเรียกร้องให้นานาประเทศยุติการดำเนินการเช่นเดียวกันนี้ ซึ่งจะทำลายโอกาสในการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

ทั้งนี้ ปารากวัยทำพิธีเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงเยรูซาเลมในวันนี้ ตามหลังสหรัฐและกัวเตมาลา ซึ่งเปิดสถานทูตที่กรุงเยรูซาเลมเช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สร้างความไม่พอใจต่อชาวปาเลสไตน์ และหลายประเทศทั่วโลก

-- นายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุเตือนว่า สถานะการคลังของสหรัฐอาจสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ โดยรายงานระบุว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ (5.5% ของ GDP) ภายในปี 2564 จากระดับ 8.25 แสนล้านดอลลาร์ (4.1% ของ GDP) นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า สหรัฐจะขาดดุลงบประมาณสูงถึง 2.05 ล้านล้านดอลลาร์ (7% ของ GDP) ภายในปี 2571

รายงานเตือนว่า "ตัวเลขการขาดดุล และระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้นจะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขขาดดุลเพิ่มสูงขึ้นต่อไป และแม้ว่าเราไม่เชื่อว่าสหรัฐจะเผชิญกับความเสี่ยงในการกู้ยืมเงิน หรือการจ่ายคืนเงินกู้ แต่ระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้นก็จะมีผลกระทบก่อนที่ความสามารถในการชำระหนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่"

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนพ.ค. โดยเฟดสาขาริชมอนด์ และสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ฝรั่งเศส เยอรมนีและอียู เตรียมเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต ส่วนอังกฤษเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 1-2 พ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ