รัฐบาลสหรัฐได้ตกลงที่จะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน ซึ่งจะช่วยให้ ZTE สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐสั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับ ZTE เนื่องจาก ZTE ได้ส่งออกสินค้าไปยังอิหร่านและเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร
คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐทราบว่า รัฐบาลได้ตกลงที่จะเปิดทางให้ ZTE กลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง หลังจากทางบริษัทได้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์ และยอมปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารของบริษัท
ทางด้านปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเพื่อยืนยันเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า "ก่อนหน้านี้ผมได้ปิดหนทางการดำเนินธุรกิจของ ZTE แต่ตอนนี้ผมได้ตัดสินใจเปิดทางให้บริษัทแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่ ZTE ยอมรับเงื่อนไขที่ว่า ทางบริษัทจะต้องไม่สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ อีกครั้งจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร รวมทั้งจะต้องซื้อชิ้นส่วนจากสหรัฐ และจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าต่างๆให้กับบริษัท ZTE เป็นเวลา 7 ปี หลังจาก ZTE ได้ทำการส่งมอบสินค้าให้กับอิหร่านและเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ทั้งนี้ การที่สหรัฐออกมาตรการลงโทษ ZTE ในเดือนเม.ย.นั้น ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อ ZTE เนื่องจากบริษัทสหรัฐได้จัดหาชิ้นส่วนต่างๆซึ่งใช้ในการผลิตอุปกรณ์ของ ZTE ในสัดส่วนราว 20-30% ของอุปกรณ์ทั้งหมดของ ZTE ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน และชิ้นส่วนที่ใช้ในการสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้ ZTE ประกาศเลื่อนการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1 โดยระบุว่าทางบริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการประเมินผลกระทบจากการที่รัฐบาลสหรัฐประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับทางบริษัท