"ความต้องการน้ำมันมีความหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นความเสี่ยงต่างๆ ที่ว่ากันว่าจะทำให้บทบาทของน้ำมันในเศรษฐกิจโลกลดลงนั้น จึงเป็นการกล่าวเกินจริง" นายเซชินแสดงความเห็นระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัปดาห์ปิโตรเลียมนานาชาติ ที่กรุงลอนดอน
ประธานรอสเนฟท์ระบุว่า "ความไม่สมดุลกันระหว่างอุปสงค์และอุปทานน้ำมันอาจลดลงอย่างมากภายในสิ้นปี 2559 และภายในสิ้นปี 2560 เราอาจได้เห็นอุปทานน้ำมันในตลาดขาดแคลนก็เป็นได้"
เขากล่าวว่า การประสานงานกันของประเทศส่งออกน้ำมันรายใหญ่เพื่อลดการผลิตลงวันละประมาณ 1 ล้านบาร์เรล จะช่วยบรรเทาความไม่แน่นอนลงอย่างมาก และเป็นการผลักดันตลาดสู่ระดับราคาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม นายเซชินระบุว่า ผู้มีบทบาทสำคัญในตลาดยังไม่พร้อมรับสถานการณ์เช่นนี้ พร้อมกับเสนอให้มีการสร้างกลไกปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อให้สถานการณ์มีเสถียรภาพ
"ตลาดจะต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งตลาดเองก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นในตลาดจะทำอย่างไรให้การเติบโตเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและได้ผล"
นายเซชินยังได้กล่าวถึงสิ่งที่สำคัญสำหรับภาคพลังงานโลกในระยะยาวว่า "การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งในและนอกภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมพลังงาน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวม" สำนักข่าวซินหัวรายงาน