ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (3 ก.พ.) สัญญาธัญพืชปรับตัวลงทั้งกระดาน โดยที่สัญญาถั่วเหลืองร่วงลงตามแรงเทขายทางเทคนิค หลังจากที่ไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 2.25 เซนต์ หรือ 0.61% ปิดที่ 3.6525 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 4.25 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 4.3025 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 10.25 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 10.25 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลงกันถ้วนหน้า จากแรงกดดันของภาวะอุปทานในตลาดโลกที่มีปริมาณมาก ตลอดจนแรงเทขายทำกำไรบางส่วนในช่วงสุดสัปดาห์ ภายหลังจากที่สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีต่างปรับตัวขึ้นในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาวะการซื้อขายข้าวสาลีล่วงหน้ายังได้รับแรงกดดันจากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของข้าวสาลีในสหรัฐ ซึ่งสร้างความวิตกเพิ่มขึ้นว่า สหรัฐจะสามารถเก็บเกี่ยวข้าวสาลีได้เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะส่งผลให้สต็อกข้าวสาลีในตลาดโลกมีภาวะอุปทานส่วนเกิน
นายเดวิด เชพพาร์ด กรรมการผู้จัดการแห่งกรีเดลล์ในอังกฤษ กล่าวว่า "ตอนนี้ไม่มีความวิตกเกี่ยวกับสภาพอากาศที่รุนแรงแต่อย่างใด"
ทั้งนี้ในช่วงตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้นถึง 3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้น 4 สัปดาห์จากทั้งหมด 5 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
ขณะที่ตลาดถั่วเหลือง CBOT มีปัจจัยลบจากรายงานพยากรณ์อากาศที่ดีขึ้นในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่และเป็นคู่แข่งของสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า บราซิลจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ บริษัทไอเอ็นทีแอล เอฟซีสโตน บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในนิวยอร์ก ได้ปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลในช่วงปี 2559/60 สู่ระดับ 104.08 ล้านตัน จากระดับ 102.76 ล้านตันก่อนหน้านี้ โดยคาดว่า ผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลที่มีปริมาณมากจะทำให้อุปสงค์ถั่วเหลืองของสหรัฐชะลอตัวลง