สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 29 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 97.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 104.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน และปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญา หลังสถานการณ์ความไม่สงบไม่อิรัก และลิเบีย ตลอดจนความขัดแย้งกันระหว่างยูเครนและรัสเซียมีแนวโน้มว่าจะไม่กระทบต่ออุปทานน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน WTI ยังได้รับแรงกดดันจากข่าวว่า เกิดเหตุไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงกลั่นน้ำมันของ CVR Refining LP ที่เมืองคอฟฟีย์วิลล์ รัฐแคนซัส โดยบริษัทออกมาเปิดเผยต่อมาว่า โรงกลั่นดังกล่าวอาจหยุดำเนินงานเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งมีนัยว่า สต็อกน้ำมันดิบเมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมาอาจปรับตัวขึ้น เนื่องจากคลังน้ำมันเมืองคุชชิงส่งน้ำมันมายังโรงกลั่นแห่งนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค. เพิ่มขึ้น 365,000 บาร์เรล แตะ 218.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 789,000 บาร์เรล สู่ระดับ 126.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ