ไอดีซี ระบุว่า ซัมซุงมียอดจัดส่งสมาร์ทโฟน 319.8 ล้านเครื่องในปี 2556 เพิ่มขึ้น 43.9% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นแตะระดับ 32.2% ในปี 2556 จากระดับ 30.4% ในปี 2555 ซึ่งทำให้ซัมซุงก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก
สำหรับยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของแอปเปิล อิงค์ขยับขึ้น 12.9% สู่ระดับ 153.5 ล้านเครื่อง แต่ส่วนแบ่งตลาดกลับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15.5% จากระดับ ร่วงลงจาก 22% ในปี 2555 ซึ่งทำให้แอปเปิลตามหลังซัมซุง สำหรับหัวเหว่ย ซึ่งเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนของจีนมียอดการจัดส่ง 48.8 ล้านเครื่อง ทะยานขึ้น 67.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีส่วนแบ่งตลาด 4.9% ขณะที่แอลจี แบรนด์ของเกาหลีใต้ และเลอโนโวของจีนนั้นตามหลังมาติดๆ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 4.8% และ 4.5% ตามลำดับ
นักวิเคราะห์ของไอดีซีระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ช่วยหนุนยอดขายสมาร์ทโฟนก็คือ หน้าจอขนาดใหญ่และต้นทุนที่ต่ำ
ทางด้านนักวิจัยตลาดจากสแตรเทจี อนาไลติกส์ก็ได้ข้อสรุปเดียวกันจากข้อมูลสถิติว่า ซัมซุงทำยอดขายสมาร์ทโฟน 86 ล้านเครื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ครองส่วนแบ่งตลาด 29.6% ขณะที่แอปเปิลทำยอดขายสมาร์ทโฟน 51 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาด 17.6% หัวเหว่ยและเลอโนโว แบรนด์ของจีนจีนรั้งในอันดับ 3 และ 4 ด้วยยอดขาย 16.6 ล้านเครื่อง และ 13.6 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้ ตลาดจีนกลายเป็นตลาดการแข่งขันสำหรับแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลก ภายหลังเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศที่มีตลาดโตเต็มที่แล้วนั้น ชะลอตัวลง
แคนาลิส บริษัทวิเคราะห์ตลาดประเมินว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของตลาดจีนอยู่ที่ 354 ล้านเครื่องในปีที่แล้ว และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 422 ล้านเครื่องในปี 2557 ขณะที่ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของตลาดสหรัฐอยู่ที่ 139 ล้านเครื่องในปี 2556
แอปเปิลและซัมซุงเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนแนวหน้าในตลาดของหลายๆประเทศรวมทั้งสหรัฐด้วย แต่ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น แอปเปิลและซัมซุงต่างเผชิญปัจจัยที่ไม่แน่นอน ขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นบางแบรนด์ของจีนซึ่งผู้บริโภคภายนอกประเทศแทบไม่รู้จัก กลับเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสามารถท้าทายบริษัทรายใหญ่อย่างแอปเปิลและซัมซุงได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน