UN เผยแอฟริกาและประเทศตอ.กลางกำลังเผชิญวิกฤตความไม่มั่นคงด้านอาหาร

ข่าวต่างประเทศ Friday December 12, 2014 14:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า ความไม่มั่นคงด้านอาหารกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต เนื่องจากปัญหาการเมือง สภาพอากาศที่เลวร้าย และการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา (EVD) ในราว 38 ประเทศ

รายงานคาดการณ์สถานการณ์อาหารล่าสุดของ FAO ระบุว่า ไวรัสอีโบลาก่อให้เกิดหนึ่งในวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในภาคเกษตรกรรม และอาหารของแอฟริกาตะวันตก เนื่องจากอีโบลาเริ่มแพร่ระบาดในช่วงที่กำลังเพาะปลูกพืชผล และได้ลุกลามไปทั่ววงจรเกษตรกรรมโดยเฉพาะในประเทศกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน

นอกจากนี้ ความขัดแย้งยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความไม่มั่นคงด้านอาหาร โดยสถานการณ์ในซีเรียน่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากปริมาณพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้น้อยนั้น กำลังซ้ำเติมสถานการณ์ความตึงเครียดอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังเลวร้ายลง ประชาชนราว 6.8 ล้านคนซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านกำลังเผชิญหน้ากับความไม่มั่นคงด้านอาหารอย่างรุนแรง ในปี 2557 ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างมากเนื่องจากปัญหาที่ดินรกร้าง ขาดแคลนแรงงาน โรงไฟฟ้า และลำคลองถูกทำลาย ตลอดจนปัญหาภัยแล้ง

ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ในอิรักก็ย่ำแย่หนักไม่แพ้กัน โดยจำนวนประชาชนลี้ภัยการเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตั้งแต่ปีที่แล้ว สู่ระดับ 2.8 ล้านคน

ทั้งนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรในสาธารณรัฐแอฟริกากลางยังพุ่งขึ้นถึง 70% ในปีนี้ ส่วนผลผลิตธัญพืชส่วนหนึ่งปรับตัวลงเนื่องจากผลผลิตมันสำปะหลังที่ร่วงลงถึง 45% แม้ว่ามันสำปะหลังจะมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย แต่ก็เป็นพืชผลที่พึ่งพาแรงงาน และการดูแลน้อยเช่นกัน

รายงาน FAO ยังระบุด้วยว่า ปัญหาเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะจากเขตดาร์ฟูร์ของซูดาน ตอนเหนือของไนจีเรีย สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และประเทศมาลีนั้น ยังได้สร้างแรงกดดันต่ออุปทานอาหารในประเทศ ยิ่งโดยเฉพาะประเทศชาดซึ่งประชาชนมากกว่า 550,000 คนที่ขาดแคลนอาหาร และต้องการความช่วยเหลือในการดำรงชีพ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ