ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า ประชาชนอย่างน้อย 10 คนเสียชีวิต และอีก 5 คนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พายุคปปุพัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์เป็นวันที่สอง
นางมาร์กาเรตา วอห์ลสตรอม หัวหน้าสำนักงานเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNISDR) แสดงความชื่นชมรัฐบาลฟิลิปปินส์จากความพยายามลดอัตราการเสียชีวิตและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว
นางวอห์ลสตรอมเปิดเผยว่า "การสื่อสารเพื่อแจ้งเตือนระยะแรกในฟิลิปปินส์พัฒนาขึ้นมาก นับตั้งแต่เกิดพายุไห่เยี่ยนที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 6,000 คนเมื่อเดือนพ.ย.2556"
ส่วนนายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า "ยูเอ็นกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลในการดำเนินการประเมินความจำเป็นต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เข้าใจผลกระทบทางด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นจากพายุได้ดีขึ้น"
นายดูจาร์ริคเสริมว่า ขณะเดียวกันกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ได้จัดเตรียมเสบียงอาหารล่วงหน้าไว้สำหรับครอบครัวประมาณ 12,000 ครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย ยาเม็ดสำหรับฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ชุดอุปกรณ์สุขอนามัย ยารักษาโรค เครื่องเขียน อาหารเสริม เต๊นท์ และเครื่องปั่นไฟ
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ประชาชนทั้งหมด 283,486 คนได้รับผลกระทบจากพายุในเขตพื้นที่อีโลโกส คากาแยน เซ็นทรัลลูซอน คาลาบาร์ซอน บิโคล และเขตการปกครองคอร์ดิลเลอรา โดยถนน 36 สาย และสะพาน 18 แห่งยังไม่สามารถสัญจรได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน