สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2556 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอัตรา ร้อยละ 5.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.5 — 5.5) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐที่เร่งตัวสูงขึ้น และการ ปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ ขณะที่อุปสงค์ภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอลง หลังจากที่มีการเร่งการบริโภคและการลงทุนเพื่อฟื้นฟูจาก วิกฤตอุทกภัยไปมากแล้วในปีก่อน อย่างไรก็ตาม รายได้ภาคครัวเรือนที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดย เฉพาะการเพิ่มค่าแรงรายวันเป็น 300 บาททั่วทั้งประเทศ และโครงการรับจำนำข้าว จะช่วยส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนไม่ชะลอลงมากนัก ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2556 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 — 3.5) โดยอุปทานน้ำมันในตลาดโลกคาด ว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจส่งผลให้ราคาธัญพืชโลกปรับตัวสูงขึ้น”
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “การประมาณการเศรษฐกิจในปีหน้าจำเป็นต้องติดตามปัจจัยเสี่ยง ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เช่น ระดับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะปัญหาหน้าผาทางการคลังของ สหรัฐฯ และความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศคู่ค้าสำคัญๆ ของไทย รวมถึงความ สามารถในการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมายด้วย”
ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจปี 2555 และ 2556 (ณ เดือนธันวาคม 2555)
2554 2555 f 2556 f (ณ ธันวาคม 2555) (ณ ธันวาคม 2555) เฉลี่ย เฉลี่ย ช่วง สมมติฐานหลัก สมมติฐานภายนอก 1) อัตราการขยายตัวเฉลี่ย 14 ประเทศคู่ค้าหลัก (ร้อยละต่อปี) 4 3.5 3.7 3.2-4.2 2) ราคาน้ำมันดิบดูไบ (ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล) 105.6 109.4 113 108.0-118.0 3) ราคาสินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 5.6 0.7 3.3 2.3-4.3 4) ราคาสินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 10.1 1.8 3.5 2.5-4.5 สมมติฐานด้านนโยบาย 5) อัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) 30.5 31.1 30.7 29.70-31.70 6) อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ณ สิ้นปี (ร้อยละต่อปี) 3.25 2.8 2.8 2.25-3.25 7) รายจ่ายภาคสาธารณะตามปีงบประมาณ (ล้านล้านบาท) 2.77 2.89 3.17 3.12-3.22 ผลการประมาณการ 1) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (ร้อยละต่อปี) 0.1 5.7 5 4.5-5.5 2) อัตราการขยายตัวของการบริโภครวม (ร้อยละต่อปี) 1.3 5.8 3.8 3.3-4.3 - การบริโภคภาคเอกชน (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 1.3 5.6 3.9 3.4-4.4 - การบริโภคภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 1.1 6.7 3.5 3.0-4.0 3) อัตราการขยายตัวของการลงทุนรวม (ร้อยละต่อปี) 3.3 14.5 10.2 9.2-11.2 - การลงทุนภาคเอกชน (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 7.2 16.1 9.2 8.2-10.2 - การลงทุนภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) -8.7 8.5 14 13.0-15.0 4) อัตราการขยายตัวปริมาณส่งออกสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 9.5 3 6.6 5.6-7.6 5) อัตราการขยายตัวปริมาณนำเข้าสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) 13.7 6.1 5.6 4.6-6.6 6) ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 17 9.5 9.4 8.4-10.4 - สินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 14.3 3.9 10 9.0-11.0 - สินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละต่อปี) 24.9 8 10.5 9.5-11.5 7) ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 5.8 3 2.1 0.1-4.0 - ร้อยละของ GDP 3.8 0.8 0.5 0.0-1.0 8) อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (ร้อยละต่อปี) 3.8 3 3 2.5-3.5 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ร้อยละต่อปี) 2.4 2.1 1.9 1.4-2.4 9) อัตราการว่างงาน (ร้อยละของกำลังแรงงานรวม) 0.7 0.6 0.6 0.5-0.7
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3273
เอกสารแนบ
รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2555 และ 2556
1. เศรษฐกิจไทยในปี 2555
1.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในปี 2555 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.7 ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.6 เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต และการจ้างงานที่อยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้ราย ได้ภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับภาวะการเงินโดยรวมยั้งเอื้ออำนวยต่อการบริโภค สะท้อนจากอัตราการขยายตัวของสินเชื่อภาคครัว เรือนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2555 ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 18.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะ ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 16.1 เนื่องจากการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรและการก่อสร้างจะขยายตัวสูง เพื่อเป็นการชดเชยและซ่อมแซม ความเสียหายจากอุทกภัย ประกอบกับผู้ประกอบการมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ อุปสงค์ภายในประเทศยังได้รับแรงสนับสนุนของนโยบายภาครัฐ อาทิ การเพิ่มรายได้แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการ การรับจำนำ ข้าวเปลือก โครงการรถยนต์คันแรก โครงการบ้านหลังแรก และการทยอยปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาครัฐยังคงมีบทบาทในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าการบริโภคภาครัฐจะขยายตัวร้อยละ 6.7 และการลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 8.5 ตามการใช้จ่ายในโครงการภาครัฐ ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น อาทิ การปรับขึ้น เงินเดือนข้าราชการ และ มาตรการในส่วนของแผนการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวของภาครัฐวงเงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาท ที่เริ่มทยอย ลงทุนได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2555 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกสินค้าและบริการของไทยคาดว่าจะชะลอลงมาขยายตัวเพียง ร้อยละ 3.0 เนื่องจากการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะจากวิกฤตหนี้สาธารณะในกลุ่ม ประเทศยูโรโซน ประกอบกับความล่าช้าในการฟื้นตัวของภาคการผลิตอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกในบางสาขา นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าเกษตร ยังมีแนวโน้มลดลงตามปริมาณการส่งออกข้าว เนื่องจากราคาข้าวของไทยอยู่ในระดับสูงส่งผลให้ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาในตลาดโลกได้ อย่างไรก็ตาม การส่งออกด้านบริการคาดว่าจะขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าและ บริการคาดว่าจะเร่งตัวสูงกว่าการส่งออก โดยจะขยายตัวร้อยละ 6.1 ตามการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ประกอบกับความต้องการ นำเข้าสินค้าทุนเพื่อฟื้นฟูความเสียหายของภาคการผลิตจากเหตุการณ์อุทกภัย
1.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2555 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.0 ลดลงจากปีก่อนหน้า ตาม ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอลง อันเป็นผลมาจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่อ่อนแอลง ประกอบกับ ผลจากแนวทางการดูแลราคาน้ำมันขายปลีกของภาครัฐ นอกจากนี้ ราคาสินค้าเกษตรในประเทศมีแนวโน้มปรับลดลงจากปีก่อน จากผลผลิต ทางการเกษตรที่ออกสู่ตลาดในปริมาณที่มากขึ้น ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.6 ของกำลังแรงงานรวม ในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลที่ 3.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP เนื่อง จากดุลการค้าที่คาดว่าจะเกินดุลที่ 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามมูลค่าสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะยังคงสูงกว่ามูลค่าสินค้านำเข้า โดยคาดว่า มูลค่านำเข้าสินค้าในปี 2555 จะขยายตัวร้อยละ 8.0 ขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9
2. เศรษฐกิจไทยในปี 2556
2.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในปี 2556 คาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 5.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.5 — 5.5) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 14.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 13.0 — 15.0) อันมีปัจจัยสนับสนุนจากทั้งรายจ่ายงบประมาณและรายจ่ายตามแผนบริหารจัดการน้ำในระยะยาวของภาครัฐวงเงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาทที่คาดว่าจะเริ่มทยอยลงทุนได้มากขึ้นในปี 2556 ขณะที่การบริโภคภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 3.0 — 4.0) ตามการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของรัฐบาลในปี 2556 ที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การปรับตัวดี ขึ้นของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกมากขึ้น โดยคาดว่าการส่งออกสินค้าและบริการจะขยายตัวร้อยละ 6.6 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.6 และ 7.6) ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.6 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ ร้อยละ 4.6 — 6.6) อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอลง ภายหลังจากที่มีการเร่งการบริโภคและการลงทุนเพื่อฟื้นฟูภายหลัง เหตุการณ์อุทกภัยไปมากแล้วในปีก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.4 — 4.4) ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 9.2 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 8.2 - 10.2) อย่างไรก็ตาม รายได้ภาคครัวเรือน ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการเพิ่มค่าแรงรายวันเป็น 300 บาททั่วทั้งประเทศและโครงการ รับจำนำข้าว จะช่วยส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนไม่ชะลอลงมากนัก
2.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เสถียรภาพภายในประเทศ ในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2556 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 — 3.5) ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากคาดว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น จากการที่สหรัฐฯ จะสามารถผลิตน้ำมันเพื่อตอบสนองอุปสงค์ภายในประเทศได้เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ ภัยแล้ง และอุทกภัย อาจส่งผลให้ราคาธัญพืชในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น และจะส่งผ่านไปยังต้นทุนราคาอาหารสัตว์และราคาในหมวดเนื้อสัตว์ให้ปรับตัว สูงขึ้นตาม ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.6 ของกำลังแรงงานรวม (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.5 — 0.7 ของกำลังแรงงานรวม) ในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลเล็กน้อยที่ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น ร้อยละ 0.5 ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.0 — 1.0 ของ GDP) เนื่องจากดุลการค้าที่คาดว่าจะเกินดุลลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 9.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 8.4 — 10.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตามมูลค่าสินค้านำเข้าที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่ง กว่ามูลค่าสินค้าส่งออก โดยคาดว่ามูลค่านำเข้าสินค้าในปี 2556 จะขยายตัวร้อยละ 10.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 9.5 — 11.5) ขณะ ที่มูลค่าส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 10.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 9.0 — 11.0)
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 141/2555 26 ธันวาคม 2555--