รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2557

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2557

1. ธปท. ยืนยันเศรษฐกิจไทยไม่ถดถอย

2. mai คาดมาร์เก็ตแคป บจ.ใหม่ปีนี้เกิน 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมาย 8 พันล้านบาท

3. สหรัฐฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือน ส.ค. พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ สศช. ประมาณการว่า GDP ปี 57 จะขยายตัวได้ 1.5 - 2% โดยไตรมาส 2 ขยายตัว 0.4% นั้น เป็นการยืนยันทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน สำหรับตัวเลข GDP ไตรมาส 2/57 ขยายตัว 0.9% จากไตรมาส 1/57 นั้น สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย (technical recession) ตามที่หลายฝ่ายเคยกังวล เนื่องจาก GDP ไตรมาสต่อไตรมาสไม่ได้หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งน่าจะช่วยคลายข้อกังวลของนักลงทุนลงได้ ซึ่งแม้ตัวเลข GDP ครึ่งแรกของปีจะยังคงหดตัว 0.1% แต่ก็ออกมาดีกว่าที่ ธปท. เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัวที่ 0.5%
• สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นตามการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศและอุปสงค์ภายนอกประเทศ เป็นสำคัญ ประกอบกับเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค. 57 สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย อยู่ที่ระดับ 68.5 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าในครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐรวมถึงการเร่งรัดการใช้จ่ายภายใต้แผนการลงทุนภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 57 และการเร่งกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 57 จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 2.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.5 - 2.5 คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค.57)

• ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่า คาดว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคปของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ปีนี้มีโอกาสสูงกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากมี บจ.ขนาดใหญ่ที่ใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคปเข้าจดทะเบียนใน mai และคงเป้าหมายจำนวนหุ้นไอพีโอของตลาดหลักทรัพย์ mai ปีนี้ที่ 16 บริษัท
• สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ mai มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 289,127.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.0 จากปีก่อน โดยในปี 2557 มีจำนวนหลักทรัพย์จดทะเบียนทั้งสิ้น 138 หลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 11 หลักทรัพย์ และมีบริษัทที่มีการย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 2 บริษัท นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ mai มีมูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนเฉลี่ยต่อวันประมาณ 5,118.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.5 ของมูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนเฉลี่ยต่อวันใน SET ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ mai อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอของ บจ. ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ทั้งสิ้น 13 บริษัท ซึ่งครอบคลุมธุรกิจต่างๆ เช่น การผลิตอาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปเพื่อการส่งออก การผลิตเหล็กและเหล็กหล้า ศูนย์ทันตแพทย์เฉพาะทาง การให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและบริการขนส่งสินค้าในประเทศ การผลิตอาหารเพื่อการส่งออก ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และให้บริการธุรกรรมออนไลน์ (e-Business) โดยในช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย. 57 มีบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นจำนวน 2 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 394 ล้านบาท ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ mai จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างยั่งยืนต่อไป

• สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. 57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 55 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 53 ในเดือน ก.ค.57 โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สะท้อนถึงภาพรวมการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นและกลุ่มผู้สร้างบ้านระบุว่าบรรดาผู้ซื้อที่มีศักยภาพกำลังเข้ามาในตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจาก GDP ไตรมาส 2 ปี 57 (ตัวเลขเบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อปี เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 1.9 (ตัวเลขปรับปรุง) หรือเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล จะขยายตัวร้อยละ 1.0 จากไตรมาสก่อนหน้า จากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวเร่งขึ้น หลังจากประสบปัญหาอากาศหนาวเย็นผิดปกติในช่วงไตรมาสก่อน ในขณะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. 57 อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ที่ระดับ 90.9 จุด สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 86.4 จุด (ตัวเลขปรับปรุง) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. 57 เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 57.1 จุด สูงสุดในรอบ 3.5 ปี จากดัชนีย่อยทุกประเภทที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 57 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.2 ต่อปี

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257