Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2558
Summary:
1. มูลค่าการส่งออกไทย เดือน ก.พ. 58 หดตัวร้อยละ -6.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
2. มูลค่าการส่งออกฮ่องกง เดือน ก.พ. 58 กลับมาขยายตัวร้อยละ 7.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
3. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ เดือน ก.พ. 58 หดตัวร้อยละ -3.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
1. มูลค่าการส่งออกไทย เดือน ก.พ. 58 หดตัวร้อยละ -6.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ปลัดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า การส่งออกของไทย เดือน ก.พ. 58 มีมูลค่า 17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -6.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนการนำเข้า เดือน ก.พ. 58 มีมูลค่า 16.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 1.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกที่มากกว่าการนำเข้าส่งผลให้ดุลการค้าเดือน ก.พ. 58 กลับมาเกินดุล 0.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ขาดดุลในเดือนก่อน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายการส่งออกของปี 58 ที่ร้อยละ 4.0 โดยจะมีการประเมินอีกครั้งหลังจากไตรมาสที่ 1 ปี 58
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคการค้าระหว่างประเทศของไทยยังคงซบเซาต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อุปสงค์ยังคงอ่อนแอ ทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยใน เดือน ก.พ. 58 หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ซึ่งสอดคล้องกับมูลค่าส่งออกของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย เป็นต้น โดยการส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักยังคงหดตัวต่อเนื่อง เช่น การส่งออกไปยังจีน ญี่ปุ่น และอาเซียน 5 ประเทศ หดตัวร้อยละ -15.1 -11.7 และ -16.4 ตามลำดับ และหากพิจารณาในมิติสินค้าจะพบว่าการส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวถึงร้อยละ -17.5 สินแร่และเชื้อเพลิงหดตัวร้อยละ -14.7 และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวร้อยละ -3.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปยังประเทศกลุ่ม CLMV ยังคงสามารถขยายตัวได้ในอัตราสูงที่ร้อยละ 7.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับด้านการนำเข้าพบว่า การนำเข้าสินค้าหมวดเชื้อเพลิงยังคงหดตัว แม้ในอัตราที่ชะลอลง โดยเป็นผลจากราคาเชื้อเพลิงที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่การนำเข้าสินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบ และสินค้าอุปโภคบริโภค ได้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง เป็นสัญญาณที่บ่งชี้การฟื้นตัวของภาคการผลิตในประเทศ ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์ในเดือนหน้าต่อไป
2. มูลค่าการส่งออกฮ่องกง เดือน ก.พ. 58 กลับมาขยายตัวร้อยละ 7.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติฮ่องกงเปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออก เดือน ก.พ. 58 ขยายตัวร้อยละ 7.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากร้อยละ 2.8 ในเดือนก่อน และเป็นการขยายตัวในอัตราสูงที่สุดในรอบ 8 เดือน ด้านมูลค่าการนำเข้า เดือน ก.พ. 58 หดตัวร้อยละ -0.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวจากร้อยละ 7.9 ในเดือนก่อนหน้า และเป็นการกลับมาหดตัวครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ส่งผลให้ดุลการค้า เดือน ก.พ. 58 ขาดดุล 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของฮ่องกงใน เดือน ก.พ. 58 ที่ขยายตัวเร่งขึ้น นอกจากส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฐานต่ำแล้ว ยังเป็นผลจากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไทย และการส่งออกไปยังประเทศเศรษฐกิจหลักในกลุ่มสหภาพยุโรปบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ที่ขยายตัวในอัตราสูง ในขณะที่การส่งออกไปจีนยังคงหดตัวร้อยละ -10.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทางด้านการนำเข้าใน เดือน ก.พ. 58 ที่กลับมาหดตัว เป็นผลจากการนำเข้าสินค้าหมวดพลังงานที่หดตัวลง จากราคาน้ำมันโลกที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม การพิจารณามูลค่าการค้าระหว่างประเทศของฮ่องกงในช่วง 1-2 เดือนแรกของปี ควรพิจารณาเดือน ม.ค. และเดือน ก.พ. ควบคู่กันไป เนื่องจากวันตรุษจีนในแต่ละปีที่ไม่ตรงกัน อาจทำให้การพิจารณามูลค่าการส่งออกหรือนำเข้าเพียงเดือนเดียวไม่ถูกต้องนัก ดังนั้น หากพิจารณามูลค่าการส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของฮ่องกงพบว่า ขยายตัวร้อยละ 4.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 3.9
3. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ เดือน ก.พ. 58 หดตัวร้อยละ -3.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์ประกาศตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.พ. 58 หดตัวร้อยละ -3.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเมื่อดูในรายละเอียดพบว่า มาจากการผลิตสินค้าเกือบทุกหมวดที่ลดลงต่อเนื่อง อาทิ เครื่องหนัง เครื่องนุ่งห่ม คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคการผลิตสิงคโปร์ที่กลับมาหดตัว ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยด้านวันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงเดือนดังกล่าว ประกอบกับเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างจีนและสหภาพยุโรปมีทิศทางการเติบโตที่ชะลอลงต่อเนื่อง ส่งผลต่ออุปสงค์ต่างประเทศที่ลดลง สะท้อนจากมูลค่าส่งออกในเดือน ก.พ. 58 ที่หดตัวสูงถึงร้อยละ -16.1 ซึ่งสิงคโปร์มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคการค้าระหว่างประเทศในอัตราที่สูง จากระดับการเปิดประเทศในปี 57 อยู่ที่ร้อยละ 360.1 ของ GDP โดยภาคการส่งออกเป็นแหล่งรายได้สำคัญมากถึงร้อยละ 193.9 ของ GDP ภาคการส่งออกที่อ่อนแอจึงส่งผลโดยตรงต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 19.3 ของ GDP (สัดส่วนปี 57) ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ปี 58 จะขยายตัวร้อยละ 3.2 (คาดการณ์ ณ เดือน ม.ค. 58)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257