รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 11, 2015 11:09 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2558

Summary:

1. ยอดรถยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือน พ.ย.58 ปรับตัวดีขึ้น

2. ค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 4 ปี

3. OPEC เผยยอดการผลิตในเดือน พ.ย. 58 สูงที่สุดในรอบ 3 ปี

1. ยอดรถยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือน พ.ย.58 ปรับตัวดีขึ้น
  • กรมการขนส่งทางบก รายงานว่ายอดรถยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือน พ.ย. 58 ปรับตัวดีขึ้น โดยรถยนต์นั่งอยู่ที่ 39,631 คัน คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 22.0 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ในขณะที่รถจักรยานยนต์อยู่ที่ 152,475 คัน คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การกลับมาขยายตัวของยอดรถยนต์จดทะเบียนใหม่เป็นการปรับตัวดีขึ้นในทุกภาค โดยเฉพาะภาคกลางและกรุงเทพมหานครและปริมณฑลซึ่งขยายตัวในอัตราสูงที่ร้อยละ 33.3 และร้อยละ 30.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนการปรับขึ้นภาษีในเดือน ม.ค. 59 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณายอดรถยนต์นั่งและรถจักรยายนต์จดทะเบียนใหม่ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 58 พบว่ายังหดตัวที่ร้อยละ -15.0 และร้อยละ -0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ โดยเป็นผลจากราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ สถานการณ์ภัยแล้งที่มาเร็วกว่าที่คาด และหนี้ภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง เป็นข้อจำกัดของการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของภาคเอกชน ทั้งนี้ สศค. คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนในปี 58 จะขยายตัวที่ ร้อยละ 1.8 ประมาณการ ณ เดือน ต.ค. 58
2. ค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 4 ปี
  • ค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐที่ประกาศโดยธนาคารกลางจีนในวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. 58 อยู่ที่ 6.4358 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 4 ปีต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากที่ตั้งแต่วันพุธที่ 9 ธ.ค. 58 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 6.4140 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ และวันพฤหัสบดีที่ 10 ธ.ค. 58 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 6.4236 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การอ่อนลงของค่าเงินหยวนเป็นไปตามกลไกตลาด โดยธนาคารกลางจีนอนุญาตให้ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวได้ในกรอบ +/- ร้อยละ 2.0 ของค่ากลางที่ประกาศรายวัน และตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 58 ธนาคารจีนได้ปรับวิธีการคำนวณค่ากลางใหม่ให้สอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนในวันก่อนหน้ามากขึ้น ดังนั้น การอ่อนค่าลงของเงินหยวนในช่วงนี้จึงเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งมีเงินทุนไหลออกจากจีนค่อนข้างมากจากมุมมองของตลาดว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของทางการจีนถึง 5 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี 58 และการชะลอลงของเศรษฐกิจจีน ทำให้มีเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง เป็นแรงกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลง โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนลดลงต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุดในเดือน พ.ย. 58 ลดลง 8.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 3.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำที่สุดในรอบ 33 เดือน
3. OPEC เผยยอดการผลิตในเดือน พ.ย. 58 สูงที่สุดในรอบ 3 ปี
  • OPEC เผยยอดการผลิตในเดือน พ.ย. 58 เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 31.695 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 55 พร้อมทั้งประกาศยกเลิกเพดานการผลิต แม้ว่าจะมีอุปทานส่วนเกินในตลาดโลกสูงอยู่แล้ว เพื่อกดดันผู้ผลิตนอกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ผลิตน้ำมัน Shale Oil ในสหรัฐฯ ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงต่ำกว่าระดับ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 52
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การแข่งขันทางด้านราคาของผู้ผลิตน้ำมัน OPEC และผู้ผลิตนอกกลุ่มส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดต่ำลงต่อเนื่อง ซึ่งการประกาศยกเลิกเพดานการผลิตจะยิ่งมีผลกดดันให้ราคาน้ำมันลดต่ำลงอีก และนักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดกว่าราคาน้ำมันดิบอาจลดลงไปถึง 20 เหรียญสหรัฐต่อบารเรล ราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดต่ำลงต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังรายได้เกษตรกร ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบได้ลดลงกว่าร้อยละ 60 นับตั้งแต่จุดสูงที่สุดในเดือน มิ.ย. 57 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปี 58 จะอยูที่ระดับ 53.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 59 มาอยู่ที่ระดับ 57.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ