รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 เมษายน 2559

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 เมษายน 2559

1. ร.ฟ.ท. ลั่นปี 59 ลุยสร้างรถไฟทางคู่ 4 เส้น

2. นักท่องเที่ยวเดินทางสงกรานต์ 2.14 ล้านคน

3. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น

• นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ภายในปี 59 จะเปิดประกวดราคาโครงการที่รถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,290.63 ล้านบาท และช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,853.18 ล้านบาท ล่าสุดได้ ผ่านการพิจารณาของคณะกรรม การผลกระทบสิ่งแวดล้อม แล้วขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ
• สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 59 การลงทุนภาครัฐ ทั้งจากในงบประมาณและเงินกู้นอกงบประมาณจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งการลงทุนของภาครัฐจะช่วยให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแรงสนับสนุนแก่การลงทุนภาคเอกชน (crowding in) ให้มีมากขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังภาคการจ้างงาน โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง ที่จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้ หาก ครม. เห็นชอบในโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่ 4 เส้นทางดังกล่าว และสามารถเริ่มการดำเนินโครงการได้โดยเร็ว เม็ดเงินก็จะสามารถลงสู่ระบบเศรษฐกิจ และสามารถเป็นส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้นได้ในปี 59 - 60 นี้

• การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13 - 17 เม.ย. 59 จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางมาท่องเที่ยวภายในประเทศ ประมาณ 2.14 ล้านคน เติบโตร้อยละ 2 จากปีก่อน สามารถสร้างรายได้ประมาณ 6,980 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 3.5 โดย ททท. มองว่า การท่องเที่ยวในปีนี้อาจจะไม่คึกคักมากนัก เมื่อเทียบกับปีก่อน จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมถึงปัญหาภัยแล้ง ที่อาจส่งผลต่อปริมาณน้ำที่จะใช้ในการเล่นสงกรานต์
• สศค. วิเคราะห์ว่า ข้อมูลล่าสุด 2 เดือนแรกปี 59 คนไทยเที่ยวไทยยังคงมีการเดินทางเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วยจำนวน 26.1 ล้านคน/ครั้ง คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 1.5 ต่อปี สร้างรายได้จากการเยี่ยมเยือนที่ 8.85 หมื่นล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.1 ต่อปี ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการนำค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการ และชำระราคาค่าสินค้าระหว่างวันที่ 9 - 17 เม.ย. 59 มาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท จะเป็นจิตวิทยาช่วยกระตุ้นให้ประชาชนมีการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนและจ่ายภาษีการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากขึ้น

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างมาก เมื่อวันที่ 8 เม.ย. หลังข้อมูลบ่งชี้ว่ากำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐได้ปรับตัวลดลง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ ร้อยละ 6.6 ปิดที่ 39.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 6.4 ปิดที่ 41.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สศค. วิเคราะห์ว่า การที่สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค. มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจาก มีปัจจัยระยะสั้นที่ส่งสัญญาณที่ดีต่อราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นการที่สหรัฐได้มีการปรับลดการผลิตอย่างต่อเนื่อง กอปรกับข่าวการประชุมในวันที่ 17 เม.ย. ที่จะถึงของประเทศในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่มีการนัดประชุมเพื่อหารือเรื่องปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตาม อิหร่านได้แสดงท่าทีปฏิเสธที่จะลดกำลังการผลิตลง รวมถึงการที่เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ในภาพรวมราคาน้ำมันดิบจะยังไม่มีการเพิ่มสูงขึ้นมากนัก โดย สศค.ได้ประมาณการราคาน้ำมันไว้ที่ 35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ณ เดือน ม.ค. 59 และจะมีการติดตามสถานการน้ำมันอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาการประมาณการในครั้งต่อไปในเดือน เม.ย.

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257