รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 30 กันยายน 2559

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 กันยายน 2559

1. พาณิชย์เผยไทย-จีนต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี

2. เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาส 3 ปี 59 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 6.4

3. รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 60 ฉบับชั่วคราว

• นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เผยว่าการประชุมคณะ อนุกรรมาธิการว่าด้วยการค้าและการลงทุนไทย-จีน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 26-27 ก.ย. 59 ไทยและจีนตกลงต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับเดิมที่จะหมดอายุลง ณ สิ้นปี 59 นี้ไปอีก 5 ปี หรือต่ออายุไปจนถึงปี 64 ซึ่งแผนดังกล่าวครอบคลุมความร่วมมือทั้งสิ้น 14 สาขา อาทิ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และพลังงาน เป็นต้น โดยแผนดังกล่าวจะสอดรับกับทิศทางพัฒนาเศรษฐกิจของจีนและยุทธศาสตร์ "ไทยแลนด์ 4.0" ด้วย
• สศค. วิเคราะห์ว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกและมีบทบาทต่อไทยและประเทศในภูมิภาคอย่างมาก โดยจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 2 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 11.1 ของมูลค่าส่งออกไทยรวมในปี 58 นอกจานี้ จีนเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ของไทย โดยมีสัดส่วนร้อยละ 20.3 ของมูลค่านำเข้ารวมในปี 58 ดังนั้น การต่ออายุแผนดังกล่าวจะทำให้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจของไทยและจีนเน้นแฟ้นขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเข้าสู่การเติบโตจากภายในประเทศมากขึ้น อาจทำให้จีนมีแนวโน้มลดการนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศรวมถึงไทย ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับความเสี่ยงดังกล่าวด้วย

• สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผย GDP ไตรมาส 3 ปี 59 ขยายตัวร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากร้อยละ 5.8 ในไตรมาสก่อน ผลจากภาคการผลิต ภาคก่อสร้างและภาคบริการที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ ภาคเหมืองแร่ เกษตรและประมง ยังคงมีสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง
• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 59 ซึ่งขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5.9 นับเป็นการขยายตัวแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับระดับการขยายตัวในปีก่อนที่ร้อยละ 6.7 อย่างไรตาม ภาคบริการและภาคการผลิตซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศมีสัดส่วนร้อยละ 60 และ 16 ของ GDP ในปี 58 ตามลำดับ ซึ่งยังคงขยายตัวได้ดีนั้นจะเป็นแรงสนับสนุนหลักแก่เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสสุดท้ายของปี 59 ให้สามารถขยายตัวได้ในระดับสูงต่อเนื่อง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 59 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.9 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 59) ซึ่งสัญญาณเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่ปรับตัวดีขึ้นอาจส่งผลให้มีการปรับประมาณการรอบถัดไปในเดือน ต.ค. 59 ได้

• รัฐสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 60 (ต.ค. 59-ก.ย. 60) ฉบับชั่วคราว ถือเป็นการผ่านร่างฯ ก่อนมีผลบังคับใช้เพียง 3 วันหรือต้นเดือน ต.ค. 59 นี้ ทำให้ความกังวลต่อเหตุการณ์รัฐบาลหยุดทำการ (Government Shutdown) หมดลง โดยทำให้รัฐบาลสามารถใช้จ่ายไปได้จนถึงวันที่ 9 ธ.ค. 59 นี้
• สศค. วิเคราะห์ว่า ร่างฯ ฉบับชั่วคราวนี้ครอบคลุม 1) รายจ่ายสำหรับการจัดการเลือกตั้ง 2) รายจ่ายเพื่อเยียวยาผลกระทบจากไวรัสซิก้ามูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 3) รายจ่ายเพื่อเยียวยาผลกระทบจากอุทกภัยที่รัฐหลุยเซียนาและรัฐอื่นๆ 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 4) รายจ่ายเพื่อเยียวยาผู้เสพติดสารระงับปวด (Opioid Addiction) อย่างไรก็ตาม รัฐสภาสหรัฐฯ จำเป็นต้องผ่านร่างดังกล่าวเพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องไปได้ก่อนจะมีรัฐบาลใหม่ หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 8 พ.ย. 59 นี้ โดยรัฐบาลใหม่จะเข้ามาพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายปี 60 ฉบับถาวรอีกครั้ง ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยงบประมาณดังกล่าวอาจมีผลต่อระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งในเดือน มี.ค. 60 ทั้งนี้ ณ เดือน ส.ค. 59 หนี้สาธารณะเฉพาะที่เป็นพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่สูงถึง 19.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (สัดส่วนร้อยละ 99.9 ของหนี้สาธารณะรวม) สูงกว่าเพดานหนี้สาธารณะที่เคยตั้งไว้ที่ 18.113 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน ต.ค. 58 ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านการคลังของสหรัฐฯ ที่สำคัญ

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257