Macro Morning Focus ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2559
Summary:
1. สศก. เผยดัชนีราคาสินค้าเกษตร เดือน ก.ย. 59 ขยายตัวร้อยละ 8.0 จากปีก่อน
2. เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด
3. จีนปราบปรามขบวนการนำเงินออกนอกประเทศผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน
1. สศก. เผยดัชนีราคาสินค้าเกษตร เดือน ก.ย. 59 ขยายตัวร้อยละ 8.0 จากปีก่อน
- น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยดัชนีราคาสินค้าเกษตร เดือน ก.ย. 59 กลับมาขยายตัวร้อยละ 8.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -8.3 โดยดัชนีฯ ที่กลับมาขยายตัวเป็นผลมาจากราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้นร้อยละ 15 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะภัยแล้งส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าว นอกจากนี้ราคายางพาราและปาล์มน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง ขณะที่รราคามันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรับตัวลดลง เนื่องจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และมีการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อทดแทนมันสำปะหลังและข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์
- สศค. วิเคราะห์ว่า หากพิจารณาดัชนีราคาสินค้าเกษตรร่วมกับผลผลิตทางการเกษตรแล้ว สามารถสะท้อนรายได้ของเกษตรกรใน เดือน ก.ย. 59 ได้ โดยผลผลิตสินค้าเกษตรเดือน ก.ย. 59 ขยายตัวร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 15.2 โดยผลผลิตที่ขยายตัวในเดือน ก.ย. 59 เป็นผลมาจากผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และลองกองที่ออกสู่ตลาดเป็นปริมาณมาก ดังนั้น ราคาสินค้าเกษตรที่กลับมาขยายตัว กอปรกับผลผลิตสินค้าเกษตรที่ยังคงขยายตัวได้ ส่งผลให้รายได้เกษตรกรในเดือน ก.ย. 59 ขยายตัวในอัตราเร่ง โดยขยายตัวร้อยละ 12.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ทำสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม ดังนั้น รายได้เกษตรกรที่เร่งตัวขึ้นนี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อการบริโภคภาคเอกชนในประเทศ เนื่องจากสะท้อนว่าประชาชนมีกำลังซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น
2. เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด
- ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ โดยอยู่ที่ระดับ 0.7673 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด โดยแม้ว่าอัตราการว่างงานเดือน ก.ย. 59 จะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 5.6 ต่อกำลังแรงงานรวม ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 5.7 แต่ด้านการจ้างงานเดือน ก.ย. 59 กลับลดลง 9,800 ตำแหน่ง สวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 15,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน พ.ย. 59
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพ สำหรับด้านค่าเงินที่อ่อนค่าลงนั้น มีผลมาจากการที่ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินสหรัฐ ทำให้ตลาดคาดว่าสหรัฐอาจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นในช่วงปลายปี 59 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักต่าง ๆ ไม่เฉพาะกับดอลลาร์ออสเตรเลีย และสำหรับด้านจำนวนการจ้างงานตั้งแต่ต้นปี 59 มีแนวโน้มปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นโดยในเดือน ม.ค. 59 มีจำนวนการจ้างงานที่ราว 11.89 ล้านคน ขณะที่จำนวนดังกล่าวในเดือน ก.ย. อยู่ที่ราว 11.95 ล้านคน อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ในช่วงไตรมาส 3 ปี 59 บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียอาจชะลอลงเมื่อเทียบกับในครึ่งปีแรกของปี 59 โดยเครื่องชี้ที่ชะลอลงเช่น ยอดค้าปลีก ยอดค้ายานพาหนะใหม่ ดัชนีผลประกอบการภาคอุตสาหกรรม และดัชนีผลประกอบการภาคบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียในปี 59 ไว้ที่ร้อยละ 2.9 (ณ ก.ค. 59) และจะมีการประกาศประมาณการใหม่ในช่วงปลายเดือนนี้
3. จีนปราบปรามขบวนการนำเงินออกนอกประเทศผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน
- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ได้มีการปราบปรามขบวนการนำเงินออกนอกประเทศจีนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเครือข่ายนี้มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวนหรือ 148 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สศค. วิเคราะห์ว่า เงินหยวนที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ประกอบกับทางการจีนที่เข้มงวดในการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศมากขึ้น ทำให้มีความพยายามที่จะลักลอบนำเงินทุนออกนอกจีนผ่านช่องทางผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ผ่านการปลอมหลักฐานการนำเข้าจากฮ่องกง สะท้อนจากอัตราการขยายตัวของมูลค่าการนำเข้าของจีนจากฮ่องกงตั้งแต่ช่วงต้นปี 59 ที่ขยายตัวในอัตราสูงผิดปกติ โดยสูงที่สุดในเดือน พ.ค. 59 ถึงร้อยละ 242.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หลังจากการปราบปรามของทางการจีน พบว่าล่าสุดในเดือน ก.ย. 59 มูลค่าการนำเข้าของจีนจากฮ่องกงกลับมาหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี ที่ร้อยละ -3.2 จึงอาจทำให้มีความพยายามในการนำเงินทุนออกนอกประเทศผ่านช่องทางอื่นดังกล่าว นอกจากนี้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากจีนในช่วงที่ผ่านมา ยังสะท้อนในปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนที่ทรงตัวในระดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับช่วงจุดสูงสุดเมื่อกลางปี 57 โดยล่าสุดทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนในเดือน ก.ย. 59 อยู่ที่ระดับ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 18.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากเดือนก่อน
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257