Macro Morning Focus ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2559
Summary:
1. ไฟเขียวต่างด้าวลงทุนไทยอีก 17 ราย
2. พาณิชย์คาดส่งออกปีนี้เป็นบวกได้ร้อยละ 1
3. ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออกเดือนก.ย.ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12
1. ไฟเขียวต่างด้าวลงทุนไทยอีก 17 ราย
- นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ อนุญาตให้คนต่างด้าว 17 รายประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 193 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทยเพิ่ม 98 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ และความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลเชิงประจักษ์พบว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 59 (ม.ค. - ต.ค.) คณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้ว 289 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,977 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 47 ราย และเงินลงทุนลดลง 7,032 ล้านบาท ทั้งนี้ การอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนต่างด้าวจากประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ รวม 17 รายนั้น นอกจากจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจการค่าใช้จ่ายในการลงทุน และการจ้างงานให้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิทยาการใหม่ๆ ให้แก่ประเทศไทยอีกด้วย โดยเฉพาะในธุรกิจที่ประเทศไทยยังไม่มีความเชี่ยวชาญ และในอนาคตอาจช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการของไทยในสาขาดังกล่าวได้
2. พาณิชย์คาดส่งออกปีนี้เป็นบวกได้ร้อยละ 1
- รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตัวเลขภาคส่งออกไทยในปี 59 มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงร้อยละ 0 ถึง 1 จากเดิมที่ประเมินว่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ -1 ถึง 0 เนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มตัวเลขภาคส่งออกไทยในเดือน ก.ย. ที่จะประกาศในวันที่ 27 ต.ค. 59 จะออกมาเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคม โดยการที่ตัวเลขส่งออกไทยสามารถขยายตัวได้ส่วนหนึ่งมาจากการกระตุ้นการบริโภคของประเทศอื่นๆ ทำให้ประเทศไทยที่ปัจจุบันถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตมีการส่งออกสินค้าไปในต่างประเทศเพิ่มขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์ล่าสุด มูลค่าการส่งออกเดือนส.ค. ขยายตัวได้ดีถึง ร้อยละ 6.5 นับเป็นการขยายตัวในระดับสูงเทียบกับในช่วงก่อนของปี โดยสินค้าที่ส่งออก ได้ดีในช่วง 8 เดือนแรกคือ รถยนต์ และสินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับ ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 4.9 และ 42.6 ตามลำดับ ขณะที่มูลค่าการส่งออกรวม 8 เดือนแรกหดตัวที่ ร้อยละ -1.19 ซึ่งเป็นอัตราการหดตัวที่สอดคล้องกับประมาณการที่ สศค. เคยประมาณการไว้เมื่อเดือน ก.ค. โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกปี 59 จะหดตัวที่ร้อยละ -1.9 (ตามระบบดุลการชำระเงิน) อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งผลให้หลายประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจัยด้านราคาสินค้าส่งออกหลายประเภทที่สามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้อีกครั้งในไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็อาจจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิมได้ โดยทางสศค. จะมีประมาณการรอบใหม่ ณ สิ้นเดือน ต.ค. นี้
3. ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออกเดือน ก.ย. ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงร้อยละ 6.9 เทียบรายปี แตะ 5.97 ล้านล้านเยนในเดือน ก.ย. 59 ซึ่งปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12
- สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดการส่งออกที่ปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งมาจากเงินเยนแข็งค่าจนส่งผลให้ผู้ส่งออกมีรายได้ลดลง ซึ่งข้อมูล เดือน ก.ย.59 พบว่า ยอดส่งออกไปสหรัฐหดตัวลงร้อยละ 10.6 ในขณะที่ยอดส่งออกไปจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งสำหรับสินค้าญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.8 และยอดส่งออกไปสหภาพยุโรปลดลงร้อยละ 0.2 นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าสินค้าทั้งสิ้น 2.46 ล้านล้านเยน (2.4 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย.59 ซึ่งพลิกตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 1.28 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 59 เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ค. 59)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257