การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2560

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 29, 2017 10:40 —กระทรวงการคลัง

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Startup Committee) (คณะกรรมการฯ) ซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการฯ และมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2560 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของคณะทำงานย่อย 4 คณะที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการฯ ที่ได้มีการดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 ตามแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559 – 2564) พร้อมทั้งได้พิจารณาการขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ของประเทศไทย ดังนี้

1. การจัดงาน Thailand Big Bang 2017 ระหว่างวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2017 ในปี 2560 จะมีการจัดงาน Thailand Big Bang 2017 ระหว่างวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2017 โดยจะมีการจัดงานทั้งหมด 6 ครั้ง แบ่งเป็นงานใหญ่ “Thailand Big Bang 2017” ระหว่างวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2017 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ จัดโดยคณะทำงานเพื่อสร้างความตระหนักและการรับรู้เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (คณะทำงานชุดที่ 1) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งได้รวมเอางาน Startup Thailand 2017 หัวข้อ “Startup Hub of Southeast Asia” และงาน Digital Thailand 2017 เข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ จะมีการจัดงาน Startup Thailand ในระดับภูมิภาคจำนวน 5 จังหวัด ดังนี้

  • จังหวัดชลบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ในระหว่างวันที่ 12 – 13 พฤษภาคม 2560
  • จังหวัดสงขลา เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ ในระหว่างวันที่ 26 – 27 พฤษภาคม 2560
  • จังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในระหว่างวันที่ 9 – 10 มิถุนายน 2560
  • จังหวัดเชียงใหม่ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 23 – 24 มิถุนายน 2560
  • จังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนเมษายน - เดือนพฤษภาคม 2560 คณะทำงานชุดที่ 1 จะมีการแถลงข่าวการจัดงานอย่างเป็นทางการต่อไป

2. การปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนให้เหมาะสมกับการพัฒนาและการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3/2559 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนให้เหมาะสมกับการพัฒนาและการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้วางกรอบเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์เพื่อสนับสนุนกิจการ Startup และกิจการที่มีเงินทุนจดทะเบียนที่ไม่สูง (ตลาดฯ สำหรับ Startup) โดยคาดว่าจะเป็นในรูปแบบตลาด Over The Counter (OTC) และอาจเปิดให้บริษัทสามารถเข้าร่วมในตลาดได้ แม้จะยังเพิ่งก่อตั้งและยังไม่มีกำไรเลยก็ตาม (No earning record) ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2560 ตลท. ได้จัดให้มีการประชุมหารือและ workshop ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ไปแล้ว

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้ ตลท. พิจารณาเร่งดำเนินการเปิดตัวตลาดฯ สำหรับ Startup ให้ทันในเดือนกรกฎาคมในช่วงที่มีการจัดงาน Thailand Big Bang 2017 จากกำหนดการเดิมที่จะพร้อมเปิดใช้งานได้ในเดือนกันยายน 2560 พร้อมทั้งมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลท. กรมสรรพากร สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน และสำนักงานเศรษฐกิจการคลังร่วมหารือการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับ Startup นักลงทุนรายย่อยและบริษัทซึ่งประกอบกิจการเงินร่วมลงทุน (VCC) ให้เกิดความชัดเจนภายในเดือนเมษายนเพื่อดึงดูดให้มีการลงทุนภายใต้ตลาดฯ สำหรับ Startup ดังกล่าว

3. การรายงานความคืบหน้าและสถานการณ์ธุรกิจ Startup รายเดือนที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้มีการจัดทำรายงานประจำเดือน เรื่อง ความคืบหน้าสถานการณ์ธุรกิจ Startup ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น จำนวนธุรกิจ Startup ในแต่ละสาขาธุรกิจ (sector) ที่มาจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจกับหน่วยงานภาครัฐ จำนวน Startup ในแต่ละ sector ที่มาขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

ข้อมูลด้านสินเชื่อ ข้อมูลด้านธุรกิจเงินร่วมลงทุน รวมทั้งข้อมูลกิจกรรมที่เป็นการประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของธุรกิจ Startup เป็นต้น ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่มีข้อมูลดังกล่าวจัดส่งข้อมูลให้กับฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ เพื่อรายงานสถานการณ์ให้คณะกรรมการฯ และผู้สนใจรับทราบเป็นประจำทุกเดือน

4. การพิจารณาแนวทางการจัดตั้งศูนย์ทดสอบและพัฒนาฟินเทคแห่งชาติ (National Fintech Sandbox) การประชุมคณะกรรมการฯ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ทดสอบและพัฒนาฟินเทคแห่งชาติ (National FinTech Sandbox) ของสมาคมฟินเทคประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์รวมการบ่มเพาะและส่งเสริมฟินเทคให้เติบโตแข็งแรง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ Startup ได้มีพื้นที่ในการทดสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ส่วนในด้านแหล่งเงินทุนสำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว คณะกรรมการฯ จะช่วยประสานเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่สนใจให้การสนับสนุน

5. การขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (2559 - 2564) ด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบตามที่คณะทำงานเพื่อส่งเสริมการบ่มเพาะวิสาหกิจเริ่มต้น (คณะทำงานชุดที่ 3) ได้เสนอโครงการจัดประกวดแนวคิดการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ โดยในเบื้องต้นคณะทำงานชุดที่ 3 เห็นควรจัดแนวคิดการประกวดในหัวข้อ “อาหารริมทาง Street Food” เนื่องจากเห็นว่า อาหารริมทางของประเทศไทยนั้นมีความโดดเด่นด้านความหลากหลาย มีความน่าสนใจ และเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็ยังมีจุดอ่อนในด้านสุขอนามัย รวมทั้งการก่อมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งโครงการประกวดแนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถส่งแนวคิดเข้าร่วมการแข่งขันในรายการที่จัดเป็นรูปแบบ Reality Show เผยแพร่ผ่านทั้งสื่อโทรทัศน์และสื่อใหม่ (New Media) เช่น Facebook และ YouTube เป็นต้น ซึ่งในขั้นตอนต่อไปสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจะติดต่อประสานงานกับสถานีโทรทัศน์ที่มีศักยภาพเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการและจัดหางบประมาณต่อไป

6. การพัฒนา Web Portal เพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งการประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ (Knowledge Center) สำหรับ Startup ตามที่คณะกรรมการฯ ในคราวประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2559 ได้มีมติให้คณะทำงานชุดที่ 1 รับช่วงต่อในการพัฒนา Web Portal และระบบ e-Learning จากคณะทำงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (คณะทำงานชุดที่ 2) คณะทำงานชุดที่ 1 ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการในระยะที่ 1 ให้ที่ประชุมทราบว่า ในวันที่ 3 เมษายน 2560 จะมีการลงนามในสัญญาจัดจ้างสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ให้เป็นผู้พัฒนา Web Portal โดยผนวก http://www.thailandstartup.org และ https://new.set.or.th เข้าด้วยกันเป็นเว็บไซต์เดียวเพื่อความเป็นเอกภาพในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและการเผยแพร่ e-Learning พร้อมทั้ง จะเปลี่ยนไปใช้เว็บไซต์ http://startupthailand.org เป็นเว็บไซต์หลักแทน โดยมีกำหนดการเปิดใช้ Web Portal ดังกล่าวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนเมษายน สำหรับการดำเนินการในระยะที่ 2 จะรวบรวมหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพัฒนาข้อมูลที่จะเผยแพร่ผ่าน Web Portal และในระยะที่ 3 จะเผยแพร่ข้อมูล และ e-Learning ในส่วนที่เป็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับ Startup ในแต่ละ sector มากขึ้น

7. การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้คณะทำงานชุดที่ 2 รวบรวมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาและจัดทำแนวทางการพัฒนากฎหมาย กฎระเบียบ รวมทั้งข้อกำหนดในการส่งเสริมการเข้าถึงและการใช้ข้อมูลภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น โดยในเบื้องต้นได้ระบุหัวข้อปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข ดังนี้

  • การพัฒนา Cyber Security / Data Protection
  • การกำหนดเกณฑ์การเข้าถึงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน (Data Privacy)
  • การพัฒนาระบบ Central KYC (Know Your Customer)
  • การกำหนดแนวทางการขยายการเข้าถึงข้อมูลนิติบุคคลและข้อมูลทะเบียนราษฎร์เพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจ

8. การบรรจุหลักสูตรด้านความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) เข้าเป็นหลักสูตรภาคบังคับ เนื่องจากการปลูกฝังคุณลักษณะและแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่เยาว์วัยเป็นสิ่งสำคัญและจะต้องมีการเรียนการสอนที่เป็นระบบเพื่อพัฒนาศักยภาพนักเรียนไทย ที่ประชุมคณะกรรมการฯ จึงมีมติเห็นชอบการบรรจุหลักสูตรด้านความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) เข้าเป็นหลักสูตรภาคบังคับสำหรับนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา และเห็นควรให้หน่วยงานที่ได้พัฒนาหลักสูตรด้านความเป็นผู้ประกอบการไว้แล้วเข้าหารือกับหน่วยงานด้านการศึกษาในเรื่องดังกล่าว

9. การจัดพิมพ์เผยแพร่แผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559 - 2564) ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้คณะทำงานชุดที่ 1 จัดพิมพ์แผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559 - 2564) เพื่อให้แล้วเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคม 2560 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดงาน Startup Thailand 2017

สำนักนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3650

--กระทรวงการคลัง--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ