สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4 (ตุลาคม — ธันวาคม) พ.ศ. 2551 (อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 4, 2009 15:45 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

1. สถานการณ์ปัจจุบัน

การผลิต

ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 4 ปี 2551 มีประมาณ 985,881เมตริกตัน (ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบและท่อเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ ) ชะลอตัวลง ร้อยละ 49.26 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนและเมื่อ พิจารณาในรายผลิตภัณฑ์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญทุกตัวมีการผลิตที่ลดลง โดยเหล็กแผ่นเคลือบชนิดอื่นๆ ลดลงมากที่สุด ร้อยละ 67.63 รองลงมาคือ เหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลง ร้อยละ 54.12 และเหล็กแผ่นรีดร้อน ลดลง ร้อยละ 53.76 เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มีผลให้ความต้อง การของผู้ใช้ที่สำคัญ ได้แก่อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลงด้วย จึงทำให้ไม่มีคำสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในช่วงนี้เนื่องจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องเองก็ยังคงมีสต๊อกอยู่ในปริมาณที่มาก ส่งผลให้ผู้ผลิตลดการผลิตลง สำหรับเหล็กทรงยาวซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่คือ อุตสาหกรรมก่อสร้างมีการผลิตที่ลดลง ร้อยละ 45 เนื่องจากการชะลอตัวของธุรกิจก่อสร้างประกอบกับยังคงมีสต๊อกอยู่ทั้งผู้ผลิตและพ่อค้าคนกลาง รายละเอียดตามตารางที่ 1

ตารางที่ 1 : ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญไตรมาสที่ 4 ปี 2551 เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2550

หน่วย : เมตริกตัน

                   ผลิตภัณฑ์(1)                       ไตรมาสที่ 4      ไตรมาสที่ 4       อัตราการ
                                                      ปี 2551         ปี 2550      เปลี่ยนแปลง

(ร้อยละ)

ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products)          847,899      1,488,000         -43.02
เหล็กทรงยาว(Long Products)                            548,590        997,457            -45
เหล็กทรงแบน(Flat Products)                            847,100      1,725,448         -50.91
   เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-rolled Flat)                     437,291        945,714         -53.76
   เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-rolled Flat)                    245,889        536,011         -54.12
   เหล็กแผ่นเคลือบ (Coated Steel)                       163,910        243,723         -32.75
     - เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี(Galvanized Sheet)            61,974         68,931         -10.09
     - เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก  (Tin plate)                   46,518         56,471         -17.62
     - เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม (Tin free)                 27,869         33,221         -16.11
     - อื่นๆ (other coated steel)                       27,549         85,100         -67.63
ท่อเหล็ก (Pipes & Tubes)                                   N/A            N/A            N/A
                                        รวม(1)       985,881      1,943,171         -49.26
          ที่มา        :  สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ(1) : ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบ และท่อเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ

การใช้ในประเทศ(ก)

ปริมาณการใช้เหล็กและเหล็กกล้าในประเทศที่สำคัญในไตรมาสที่ 4 ของ ปี 2551 ประมาณ 1,464,562 เมตริกตัน ลดลง ร้อยละ 40.32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยความต้องการใช้ในประเทศของทั้งเหล็กทั้ง 2 ประเภท คือ เหล็กทรงยาวและเหล็กทรงแบนในช่วง นี้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเหล็กทรงยาวมีความต้องการใช้ในประเทศลดลง ร้อยละ 47.98 เนื่องจากการชะลอตัวของธุรกิจก่อ สร้าง สำหรับเหล็กทรงแบนมีความต้องการใช้ในประเทศลดลง ร้อยละ 34.12 เนื่องจากความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ลดลง

การนำเข้า-การส่งออก

การนำเข้า

มูลค่าและปริมาณการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 4 ของ ปี 2551 มีจำนวนประมาณ 86,251 ล้านบาท และ 2,277,200 เมตริกตัน โดยมูลค่าและปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 73.14 และ 24.30 ประเทศที่มีการนำเข้ามากที่สุด ได้แก่ ประเทศ ญี่ปุ่นและรัสเซีย ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เหล็กแท่งแบน (Slab) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 628.37 เนื่องจากผู้ผลิตในกลุ่มเหล็กทรงแบนคาดการณ์ว่าราคาเหล็กจะสูงมากขึ้น จึงสั่งวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้น รองลงมาคือ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เพิ่มขึ้น ร้อยละ 207.88 และเหล็กแผ่นรีดเย็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ 124.33

ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เหล็กแท่งแบน (Slab) มีมูลค่า 14,365ล้านบาท รองลงมาคือ เหล็กแผ่น เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน มีมูลค่า 11,670 ล้านบาท และเหล็กแผ่นบางรีดร้อน มีมูลค่า 10,539 ล้านบาท รายละเอียดตามตารางที่ 2

หมายเหตุ(ก) ข้อมูลการใช้ในประเทศจะเป็นปริมาณการใช้ปรากฎ (Apparent Steel Use) ซึ่งรวมสต๊อกไว้ด้วย

ตารางที่ 2 : ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญไตรมาสที่ 4 ปี 2551 เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2550

หน่วย : ปริมาณ: เมตริกตัน/ มูลค่า : ล้านบาท

             ผลิตภัณฑ์                                   ไตรมาสที่ 4               ไตรมาสที่ 4             อัตราการ             ตลาดนำเข้า
                                                        ปี 2551                 ปี 2550              เปลี่ยนแปลง               ที่สำคัญ

(ร้อยละ)

                                                    ปริมาณ       มูลค่า       ปริมาณ       มูลค่า     ปริมาณ      มูลค่า
ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products)        684,204    18,054      374,288     6,665      82.8     170.9         รัสเซีย  บราซิล
   - เหล็กแท่งเล็ก (Billet)                           170,291     2,810      140,072     2,729     21.57      2.97        รัสเซีย  ยูเครน
   - เหล็กแท่งแบน (Slab)                             480,618    14,365      111,418     1,972    331.36     628.4          รัสเซีย บราซิล
   - อื่นๆ (Others)                                   33,295       879      122,798     1,964    -72.89    -55.24             จีน ยูเครน
เหล็กทรงยาว (Long Products )                        141,039     5,780      206,818     5,051    -31.81     14.43               จีน ญี่ปุ่น
   - เหล็กเส้น (Bar)                                  62,828     2,601       56,824     1,510     10.57      72.3               ญี่ปุ่น จีน
   - เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (HR sections )          6,124       355       13,777       496    -55.55     -28.4           ญี่ปุ่น สิงคโปร์
   - เหล็กลวด (Wire rods)                            72,087     2,823      136,217     3,045    -47.08     -7.28               จีน ญี่ปุ่น
เหล็กทรงแบน(Flat Products )                       1,334,138    53,303    1,186,847    32,115     12.41     65.97                  ญี่ปุ่น
   เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-Rolled Flat Products)          629,546    21,633      597,258    12,582      5.41     71.93                  ญี่ปุ่น
    - เหล็กแผ่นหนารีดร้อน(HR   plate)                   46,984     2,178       40,495     1,274     16.02      70.9               ญี่ปุ่น จีน
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อน(HR sheet)                    317,237    10,539      346,359     6,634     -8.41     58.86         ญี่ปุ่นออสเตรเลีย
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อนชนิดผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน       265,326     8,916      210,404     4,674      26.1     90.76          ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
(HR sheet P&O )
   เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-Rolled Flat  Products)        216,765    10,369      158,566     6,446      36.7     60.86                  ญี่ปุ่น
    - เหล็กแผ่นรีดเย็น(CR carbon steel)                191,118     7,582      126,675     3,380     50.87     124.3          ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
    - เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม(CR stainless steel)         25,647     2,787       31,891     3,066    -19.58     -9.11               ญี่ปุ่น จีน
   เหล็กแผ่นเคลือบ(Coated Steel Products)             487,826    21,302      431,023    13,087     13.18     62.77                  ญี่ปุ่น
    - เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน(Galv. Sheet (HDG))        293,885    11,670      270,464     7,733      8.66     50.91          ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
    - เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า(Galv. Sheet (EG))           40,722     1,674       42,289     1,245     -3.71     34.41               ญี่ปุ่น จีน
    - เคลือบดีบุก (Tin plate)                          47,950     2,535       25,299       823     89.53     207.9              เกาหลีใต้
    - เคลือบโครเมียม(Tin free)                        17,948       972       12,708       471     41.23    106.34        เกาหลีใต้ ไต้หวัน
    - อื่นๆ (Others)                                  87,323     4,451       80,262     2,814      8.80     58.15          ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ท่อเหล็ก (Pipe)                                      117,820     9,124       64,064     5,990     83.91     52.34               จีน ญี่ปุ่น
    - ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ(Pipe-Seamless)                  92,586     6,054       42,505     3,900    117.82     55.23               จีน ญี่ปุ่น
    - ท่อเหล็กมีตะเข็บ(Pipe - Welded)                   25,234     3,070       21,559     2,090     17.04     46.92          ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
รวม                                              2,277,200    86,261    1,832,018    49,821     24.30     73.14            ญี่ปุ่น รัสเซีย

การส่งออก

มูลค่าและปริมาณการส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 มีจำนวนประมาณ 17,725 ล้านบาท และ 574,526 เมตริกตัน โดยทั้งมูลค่าและปริมาณการส่งออก ลดลง ร้อยละ 2.92 และ 4.71 ตามลำดับ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากเมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี ที่แล้ว ความต้องการใช้เหล็กของตลาดต่างประเทศ เช่น ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง ขยายตัว ทำให้ผู้ผลิต ไทยส่งออกเพิ่มมากขึ้นแต่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ความต้องการใช้เหล็กของตลาดในประเทศกลุ่มนี้ลดลงเนื่องสถานการณ์เศรษฐกิจของหลาย ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจจึงมีผลทำให้การเปลี่ยนแปลงปริมาณการส่งออกในช่วงนี้ลดลง

ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกลดลงมากที่สุดในช่วงนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เหล็กแท่งแบน (Slab) ลดลง ร้อยละ 98.07 เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน ลดลง ร้อยละ 84.74 และเหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม ลดลง ร้อยละ 71.79 รายละเอียดตามตารางที่ 3

ตารางที่ 3 : ปริมาณและมูลค่าการส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญไตรมาสที่ 4 ปี 2551 เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2550

หน่วย : ปริมาณ: เมตริกตัน/ มูลค่า : ล้านบาท

             ผลิตภัณฑ์                                   ไตรมาสที่ 4             ไตรมาสที่ 4           อัตราการ       ตลาดส่งออก
                                                        ปี 2551               ปี 2550            เปลี่ยนแปลง        ที่สำคัญ

(ร้อยละ)

ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products)      117,191     1,893     69,148     1,269     69.48     49.08   เวียดนาม
   - เหล็กแท่งเล็ก (Billet)                          78,775     1,397     37,990       709     107.4     97.11   เวียดนาม
   - เหล็กแท่งแบน (Slab)                                 0         0         12         0    -97.92    -98.07   ไต้หวัน
   - อื่นๆ (Others)                                 38,416       495     31,146       560     23.34     -11.6   เวียดนาม
เหล็กทรงยาว(Long Products )                       118,316     3,116    106,055     2,609     11.56     19.42   มาเลเซีย  กัมพูชา
   - เหล็กเส้น (Bar)                                71,949     1,551     33,383       692     115.5     124.2   กัมพูชา ลาว
   - เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (HR sections)        32,268     1,252     60,928     1,661    -47.04     -24.6   มาเลเซีย  ออสเตรเลีย
   - เหล็กลวด (Wire rods)                          14,099       312     11,744       256     20.05     21.86   เวียดนามสิงคโปร์
เหล็กทรงแบน(Flat Products )                       232,764     7,005    371,414    10,649    -37.33    -34.22   สหรัฐอเมริกา
   เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-Rolled Flat Products)        173,588     4,040    186,999     3,829     -7.17      5.53   เวียดนาม
    - เหล็กแผ่นหนารีดร้อน(HR   plate)                 18,710       735     46,213     1,037    -59.51    -29.18   สหรัฐอเมริกา
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อน(HR sheet)                   15,564       337     34,694       762    -55.14    -55.73   ซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเซีย
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อนชนิดผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน     139,314     2,968    106,093     2,029     31.31     46.27   เวียดนาม
(HR sheet P&O )
   เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-Rolled Flat  Products)       30,358     1,636    147,560     5,580    -79.43    -70.69   ญี่ปุ่น
    - เหล็กแผ่นรีดเย็น(CR carbon steel)               19,724       798    118,983     2,674    -83.42    -70.14   ญี่ปุ่น จีน
    - เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม(CR stainless steel)       10,634       837     28,577     2,906    -62.79    -71.19   อินเดีย อินโดนีเซีย
   เหล็กแผ่นเคลือบ(Coated Steel Products)            28,819     1,329     36,855     1,240    -21.81      7.12   อินเดีย  พม่า
    - เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน(Galv. Sheet (HDG))        2,907       130     22,856       849    -87.28    -84.74   พม่า ลาว
    - เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า(Galv. Sheet (EG))          6,620       255      2,208        59     199.8     329.9   เม็กซิโก มาเลเซีย
    - เคลือบดีบุก (Tin plate)                           395        16        225         7     75.44     135.7   ลาว มาเลเซีย
    - เคลือบโครเมียม(Tin free)                       1,641        76        819        30    100.47    150.53   ลาว  พม่า
    - อื่นๆ (Others)                                17,257       852     10,748       294     60.56    189.35   อินเดีย
ท่อเหล็ก (Pipe)                                    106,254     5,712     56,300     3,731     88.73     53.11   สหรัฐอเมริกา
   - ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ(Pipe-Seamless)                  5,870       473      5,121       795     14.62    -40.47   ซาอุดิอาระเบีย  พม่า
   - ท่อเหล็กมีตะเข็บ(Pipe - Welded)                 100,384     5,239     51,179     2,935     96.14     78.47   สหรัฐอเมริกา  เวเนซูเอลา
รวม                                              574,526    17,725    602,918    18,258     -4.71     -2.92   เวียดนาม  สหรัฐอเมริกา

2. สรุป

สถานการณ์เหล็กโดยรวมใน ไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน พบว่าการผลิตโดยรวมลดลง ร้อยละ 49.26 ความต้องการใช้ในประเทศ ลดลง ร้อยละ 40.32 สำหรับมูลค่าและปริมาณการนำเข้า เพิ่มขึ้น ร้อยละ 73.14 และ 24.30 ตามลำดับ โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าเหล็กแท่งแบน (Slab) และเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 628.37 และ 207.88 ตามลำดับ สำหรับมูลค่าและปริมาณการส่งออกลดลง ร้อยละ 2.92 และ 4.71เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาและ ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปลดลง ตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ

สำหรับสถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กที่สำคัญ(FOB) ในตลาดโลกจาก CIS ณ ท่า Black Sea ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นดังนี้

  • ราคาเศษเหล็ก ( EU Shredded) 230 เหรียญสหรัฐ ( ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2551)
  • ราคาเหล็กแท่งเล็กบิลเล็ต 365 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กเส้น 445 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กลวด 445 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กแท่งแบน 350 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อน 415 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กแผ่นรีดเย็น 495 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ซึ่งพบว่าราคาผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 ทั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์ทาง เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องซึ่งเป็นผู้ใช้ที่สำคัญ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ลดการผลิตลง ส่งผลให้ความต้องการใช้ เหล็กทรงแบนลดลงด้วย

บ. ArcelorMittal ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลกขาดทุน 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 4 ของปี 2008 เนื่องจาก ความต้องการเหล็กในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรก่อสร้างที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อรักษาสภาพคล่องในภาวะธุรกิจที่ตกต่ำ นาย Lakshmi Mittal CEO ของ ArcelorMittal ได้ประกาศที่จะลดตำแหน่งงาน 9,000 ตำแหน่ง และลดเงินปันผลลง นอกจากนี้ ภารกิจที่สำคัญ อย่างหนึ่งของบริษัทก็คือการลดภาระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยหนี้สินส่วนใหญ่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการของคู่แข่งตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สภาแห่งชาติจีนได้ลงมติผ่านแผนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก โดยมีมาตรการสำคัญคือ การสั่งให้หยุดการขยายกำลังการผลิตทุกชนิดชั่ว คราว โดยที่ปรึกษาของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีนได้เตือนว่า หากโครงการขยายกำลังการผลิตของจีนแล้วเสร็จทั้งหมดอาจทำให้จีนมีกำลังการผลิต ถึง 660 ล้านตัน แต่ความต้องการใช้จริงในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านตัน ซึ่งหมายความว่าจะทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินถึง 160 ล้านตัน นอก จากมาตรการควบคุมกำลังการผลิตแล้ว รัฐบาลจีนยังจะใช้ระบบภาษีส่งออกแบบยืดหยุ่นเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดของเหล็กจีนในตลาดโลก

จากข้อมูลสถิติของสมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) ผลผลิตเหล็กดิบของโลกในปี 2008 อยู่ที่ 1,329.7 ล้านตัน ลด ลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือนธันวาคม ผลผลิตลดลงถึง ร้อยละ 24.3 เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กที่ลดลง อย่างมาก โดยการผลิตเหล็กดิบจากประเทศจีนมีปริมาณ 502 ล้านตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการผลิตเหล็กดิบ ของประเทศเกาหลีใต้และอินเดีย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.8 และ ร้อยละ 3.7 ตามลำดับ แต่ผลผลิตของประเทศญี่ปุ่นกลับลดลง ร้อยละ 1.2 ในขณะที่ผล ผลิตเหล็กในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.2 อย่างไรก็ตาม ผลผลิตเหล็กในภูมิภาคอื่นๆในโลกกลับลดลง โดยผลผลิตเหล็กดิบใน EU อเมริกา เหนือ อเมริกาใต้ และกลุ่มประเทศ CIS ได้ลดลง ร้อยละ 5.3 ร้อยละ 5.5 ร้อยละ 1.1 และ ร้อยละ 13 ตามลำดับ

3.แนวโน้ม

แนวโน้มสถานการณ์เหล็กโดยรวมในประเทศของไตรมาสที่ 1 ปี 2552 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดการณ์ว่าทั้งการผลิตใน กลุ่มเหล็กทรงยาวและเหล็กทรงแบนจะลดลงเนื่องจากปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กทรงยาวและเหล็กทรงแบน ชะลอตัวอยู่ประกอบกับทั้งผู้ผลิตและพ่อค้าคนกลางยังคงมีสต๊อกอยู่ และเมื่อพิจารณาในเรื่องการส่งออก พบว่า จากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจของ หลายประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง อาเซียน ทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกของเหล็กทั้ง 2 กลุ่มในตลาดดังกล่าวจะลดลงด้วย

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ