บลจ.ทิสโก้ โชว์ผลงานธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดดเด่น พร้อมขยายนโยบายลงทุนตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ ตอกย้ำภาพผู้นำตลาด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 8, 2012 10:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป บลจ. ทิสโก้ ชูผลงานธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดดเด่น ครองแชมป์บริษัทนายจ้างสูงสุดต่อเนื่อง เผยกลยุทธ์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพปีนี้มุ่ง “Employee's Choice” ออกแบบทางเลือกหลายนโยบายลงทุน ตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชูกองพระเอก “ทิสโก้มาสเตอร์ร่วมทุน” กระแสตอบรับดี AUM โตกว่า 115% จำนวนสมาชิกเพิ่มกว่า 200% พร้อมเดินหน้าสร้างความเข้าใจให้สมาชิกต่อเนื่อง และพัฒนาการให้บริการ ตอกย้ำภาพผู้นำตลาด นางสาวอารยา ธีระโกเมน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Ms. Araya Thirakomen, President of TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบลจ.ทิสโก้ ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปี 2554 ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 85,028 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปี 53 ซึ่งเป็นผลมาจากความโดดเด่นในด้านของผลิตภัณฑ์ บริการ และศักยภาพของทีมงานที่ลูกค้าได้ให้ความไว้วางใจมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้ในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทิสโก้ ได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน บลจ.ทิสโก้ ยังคงครองตำแหน่งบริษัทจัดการที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทนายจ้างให้บริหารกองทุนสูงสุดถึง 2,975 บริษัท (ณ สิ้น ม.ค. 55) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของบริษัทนายจ้างทั้งหมดในประเทศไทย โดยวิสัยทัศน์ของ บลจ.ทิสโก้ในปีนี้ คือ “การออกแบบความมั่งคั่งให้ชีวิต” (Wealth of Possibilities) ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มทิสโก้ นั่นคือการมุ่งสร้างสรรค์และออกแบบความเป็นไปได้ทางการเงินที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า โดยในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ บลจ.ทิสโก้ เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด กลยุทธ์ในปีนี้จะมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ด้วยการมีนโยบายการลงทุนให้สมาชิกกองทุนฯ ได้เลือกอย่างหลากหลาย (Employee's Choice) มากขึ้น โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของสมาชิกแต่ละรายเป็นสำคัญ โดยจะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว รวมถึงจะมีการพัฒนาช่องทางในการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนของสมาชิกให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง “เรามองว่าสมาชิกแต่ละคน มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งหมายถึงความต้องการใช้เงิน และความเหมาะสมในการลงทุนที่ต่างกันด้วย ในปีนี้เราจึงจะมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การจัดสัมมนา ที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างเห็นความสำคัญของการเลือกนโยบายลงทุนได้ด้วยตนเอง รวมถึงสัมมนาสำหรับสมาชิกเช่น การวางแผนการเกษียณ เพื่อช่วยให้สมาชิกวางแผนการเงินการลงทุนให้มีใช้อย่างเพียงพอในยามเกษียณ” นางสาวอารยา กล่าว ด้านนางแขขวัญ โรจน์วัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mrs. Kaekwan Rojwattanakul, Head of Marketing Provident Fund, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหลายนโยบายลงทุน (Master Fund) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ชูโรงของ บลจ. ทิสโก้ ในปีนี้คือ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทิสโก้มาสเตอร์ร่วมทุน” (TISCO Master Pooled Fund) ซึ่งเป็น กองทุนร่วมทุนประเภทหลายนายจ้าง ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันขนาดกองทุนอยู่ที่ 18,330 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 115% และมีจำนวนบริษัทนายจ้าง 853 บริษัท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 200% จากวันที่เริ่มกองทุน (1 ก.ค. 52) โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทิสโก้มาสเตอร์ร่วมทุน มีนโยบายการลงทุนให้สมาชิกเลือกถึง 5 นโยบายการลงทุน โดยเรียงจากนโยบายความเสี่ยงต่ำไปยังความเสี่ยงสูง ได้แก่ 1. นโยบายตราสารหนี้ระยะสั้น 2. นโยบายตราสารหนี้มั่นคง 3. นโยบายตราสารหนี้ 4. นโยบายผสม (ลงทุนในหุ้นไม่เกิน 20%) และ 5. นโยบายหุ้น ซึ่งในปีนี้จะมีการขยายทางเลือกนโยบายการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มขึ้น อาทิ การลงทุนในทองคำ เป็นต้น “จากการศึกษาความต้องการของสมาชิกกองทุนร่วมทุนในช่วงที่ผ่านมาพบว่าสมาชิกหลายท่านมีความสนใจลงทุนในทองคำมากเป็นพิเศษ ซึ่งมองว่าเป็นทางเลือกในการลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวนอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นที่สมาชิกบางท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงมากเกินไป ดังนั้น บลจ.ทิสโก้ จึงได้มีแผนที่จะเพิ่มนโยบายการลงทุนที่มีการลงทุนในทองคำเพิ่มให้กับสมาชิกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้ง” นอกจากกองทุนดังกล่าว ปัจจุบันลูกค้ากองทุนที่เป็นประเภทกองทุนเดี่ยว (Single Fund) ก็ให้ความสนใจ และได้เปลี่ยนรูปแบบกองทุนเป็นกองทุนหลายนโยบายลงทุน (Master Fund) อย่างต่อเนื่องแล้วหลายบริษัท โดยหากรวมมูลค่ากองทุนประเภทหลายนโยบายลงทุน (Master Fund) ทั้งที่เป็นกองทุนเดี่ยวและกองทุนร่วมทุนแล้ว ปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันกว่า 37,000 ล้านบาท ในส่วนของการให้บริการ ปัจจุบัน บลจ.ทิสโก้ ได้พัฒนาการให้บริการให้กรรมการและสมาชิกกองทุนฯ สามารถตรวจสอบข้อมูลเงินกองทุนที่มีอยู่ทุกนโยบายได้ผ่านเวบไซต์ ภายใต้ User Account เดียว นอกเหนือไปจากรายงานที่ส่งให้กรรมการกองทุนฯ เป็นรายเดือน และรายงานที่ส่งให้แก่สมาชิกกองทุนฯ ทุกครึ่งปี โดยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กรรมการและสมาชิกกองทุนฯ อาทิ สมาชิกกองทุนฯ สามารถเลือกเปลี่ยนนโยบายการลงทุน (Switching) ได้ด้วยตัวเองผ่านทางเวบไซต์ ด้วย Username และ Password เดียวกับที่ใช้ Log In เพื่อดูข้อมูลกองทุน, กรรมการกองทุนฯ สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลง หรือกำหนดเงื่อนไขการให้สมาชิกกองทุนฯ เลือกนโยบายลงทุนได้เองในรูปแบบฟรีสไตล์ หรือกำหนดนโยบายให้สมาชิกกองทุนฯ เลือกได้มากถึง 10 ตัวเลือก และการส่งอีเมล์แจ้งให้กับสมาชิกกองทุนฯ ได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ทันที เป็นต้น โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการนี้ได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 “นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการแล้ว ทาง บลจ.ทิสโก้ยังมีการจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้และอัพเดทข้อมูลให้กับกรรมการกองทุนและสมาชิกอย่างสม่ำเสมอ โดยในงานสัมมนานั้นจะเน้นประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างและลูกจ้างเห็นความสำคัญของการเลือกนโยบายการลงทุนได้ด้วยตนเองในแบบที่เหมาะสมกับตนเอง เนื่องจากสมาชิกแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งก็หมายถึงความต้องการและความเหมาะสมในการลงทุนที่ต่างกันด้วย บลจ.ทิสโก้ จึงมีแผนงานที่จะจัดสัมมนาเรื่อง “Master Fund” ให้กับกรรมการกองทุนเพื่อช่วยให้เข้าใจและช่วยให้เห็นความสำคัญของการมี Master Fund รวมทั้งสัมมนาสำหรับสมาชิก ได้แก่ “Retirement Plan” เพื่อช่วยสมาชิกในการวางแผนการเงินสำหรับการลงทุนเพื่อให้มีเงินเพียงพอไว้ใช้ในยามเกษียณ เนื่องจากสมาชิกมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต่างกัน และความต้องการการใช้เงินที่ไม่เท่ากัน และถึงแม้สมาชิกจะเกษียณและได้รับเงินจากกองทุนหรือเงินอื่นๆ เมื่อยามเกษียณไปแล้ว ก็ยังอาจจะต้องการที่จะบริหารเงินส่วนนี้ต่อ ดังนั้น สัมมนา Investment after Retirement จะช่วยสมาชิกในการวางแผนการออมหรือการลงทุนหลังจากเกษียณอายุด้วย” นางแขขวัญกล่าว นางสาวอารยา กล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทิสโก้ ในปีนี้ ตั้งเป้าการขยายตัวของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 10-15% และตั้งเป้าจำนวนนายจ้างที่เข้ามาร่วมตั้งกองทุนกับบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 350-400 ราย ด้านการแข่งขันในตลาดเชื่อว่าจะยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยบลจ. ทิสโก้ จะเน้นการที่ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพเป็นสำคัญ ไม่เน้นก ารแข่งขันในด้านของค่าธรรมเนียม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่นึกถึงการสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ “ในปีนี้เรายังคงมุ่งเน้นด้านคุณภาพทั้งผลิตภัณฑ์และบริการเป็นสำคัญ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์และออกแบบความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้า ซึ่งในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเราจะเน้นการทำ Employee’s Choice ที่เข้าถึงลูกค้าได้ในเชิงลึกมากขึ้น โดยลูกค้าจะสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง จากเดิมทางเลือกยังคงมีอย่างจำกัดและอาจยังไม่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของสมาชิก” นางสาวอารยา กล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เสาวนีย์ สันทบ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โทร.02 633 6906

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ