สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 17, 2012 10:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,586 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,594 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.59 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,700 บาท กับ 23, 800 บาท และกลับมาปิดที่ 23,700 บาท กับ 23,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,944 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,304 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 36 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 6.8 % แบบ 10 บาท ลดลง 3.8 % Silver Futures ลดลง 99.6 % GFQ12 ปิดที่ 23,960 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,090 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 23,970บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,070 บาท SVQ12 ปิดที่ 879 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,591.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 4.8 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 27.32 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,266.10 ตัน (ขายออก 3.62 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 88.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 49.88 จุด ปิดที่ระดับ 12,727.21 จุด Ratio Gold / Silver 58.2 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, CNBC และ Infoquest ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,600 เหรียญเมื่อคืนนี้ แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอย่างน่าผิดหวัง ได้แก่ ยอดค้าปลีกสหรัฐออกมาปรับตัวลดลง 0.5% ต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ สาขานิวยอร์กมีการฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.4 ในเดือนกรกฎาคม ออกมามากกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 3.9 โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับตัวลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,591.6 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 30% ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ไอเอ็มเอฟปรับลดการคาดการณ์การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5% จากเดิม 3.6% และยังได้ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.9% ซึ่งลดลง 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลง 0.3% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ในเดือนเม.ย. และคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 0.7% ในปีหน้า ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 0.9% ขณะเดียวกันไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.0% ในปี 2555 และ 2.3% ในปี 2556 ซึ่งเป็นการปรับลดคาดการณ์สำหรับทั้งปีนี้และปีหน้าลง 0.1% จากการคาดการณ์ครั้งก่อน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลงมาสู่ระดับต่ำสุดเมื่อวานนี้ หลังจากการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลดลงอย่างน่าผิดหวังชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ส่งผลให้เกิดความคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟด ปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนในตลาดทองคำมีการจับตารอการทำ Testimony ของนายเบอร์นันเกในวันนี้และวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อมองหานัยสำคัญเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยนายเบอร์นันเกจะมีการจัดเตรียมรายงานเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส ในขณะที่นักลงทุนในตลาดอื่นๆ ไม่ได้คาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงในการประชุมมากนัก ซึ่งเฟดได้กล่าวไว้ว่า มีความไวต่อการตอบสนองในตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาและเฟดได้บอกใบ้ว่าอาจมีการเตรียมเข้าแทรกแซงตลาดในปลายปีนี้ ซึ่งการประชุมของ FOMC ในครั้งต่อไปมีกำหนดการในวันที่ 31 กรกฎาคม นายเดนนิส ล็อคฮาร์ด ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาได้ขยับเข้าใกล้การสนับสนุนการเข้าซื้อพันธบัตรรอบที่ 3 หากเศรษฐกิจระส่ำระส่าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดอีกรายได้กล่าวย้ำว่า ไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนินการเพิ่มเติมจากเฟด สำหรับในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวในกรอบ 150 เหรียญ ระหว่าง 1,525 — 1,675 เหรียญ จากการที่นักลงทุนรอความชัดเจนในนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในเช้านี้ช่วงเวลาประมาณ 8.25 น. ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 4 เหรียญ มาทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,596 เหรียญ ก่อนจะปรับตัวลดลงไปที่ระดับประมาณ 1,594 เหรียญ ณ ขณะนี้ หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนเตรียมจัดการประชุมเศรษฐกิจรอบครึ่งปีในวันพุธนี้ เพื่อเตรียมหาแนวทางควบคุมเศรษฐกิจมหภาคในช่วงครึ่งปีหลัง โดยประเด็นสำคัญของการประชุมจะเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยในวันนี้ว่า สัญญาณบ่งชี้ที่ว่าศาลเยอรมนีอาจจะใช้เวลาหลายเดือนในการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการที่เยอรมนีจะมีส่วนร่วมใน ESM นั้น นับเป็นปัจจัยลบสำหรับประเทศสมาชิกยูโรโซนทั้งหมด นอกจากนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยังได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ 13 แห่งของอิตาลี โดยมีสาเหตุมาจากประวัติด้านสินเชื่อที่อ่อนแอของรัฐบาลอิตาลี โดยการประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 13 แห่งมีขึ้นเพียง 4 วันหลังจากที่มูดีส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีลงมาอยู่ที่ระดับ Baa2 จากระดับ A3 โดยให้แนวโน้มเป็นลบ นายลูอิส เด กินดอส รมว.เศรษฐกิจสเปนกล่าวว่า รัฐบาลต้องตัดสินใจที่ยากลำบากในระยะใกล้นี้เพื่อหนุนการขยายตัวในระยะกลางและระยะยาว โดยสเปนต้องปรับปรุงศักยภาพด้านการแข่งขัน และมาตรการทุกอย่างที่ดำเนินการในขณะนี้จะช่วยให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสเปนปรับตัวดีขึ้นในระยะยาว แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งรมว.เศรษฐกิจสเปนยอมรับว่ามีความผิดพลาดในกระบวนการจัดตั้งสกุลเงินยูโร แต่แสดงความชื่นชมต่อการตัดสินใจล่าสุดของบรรดาผู้นำยุโรปที่เกี่ยวกับการจัดตั้งสหภาพการธนาคารและการคลังของประเทศสมาชิกในยุโรป ข่าวด้านน้ำมัน สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดพุ่งขึ้น 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 88.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตารอดูนายเบอร์นันเกแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ดอยช์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ประกาศปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2555 และ 2556 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากวิกฤตยูโรโซนที่ยืดเยื้อ ซึ่งการคาดการณ์ล่าสุดของดอยช์ แบงก์ระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะขยายตัว 3.2% ในปี 2555 และ 3.5% ในปี 2556 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้าอยู่ 0.3% และ 0.4% ตามลำดับ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ — 0.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -0.4% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -0.5% - Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.3 คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 3.9 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 7.4 ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.2% - CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.0% - Industrial Production m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 0.4% - TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 25.6B คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 45.7B วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold —ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,585 — 1,595 เหรียญในการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพียงเบาบาง ตลาดมีการแกว่งตัวบ้างเล็กน้อยในช่วงที่มีการประกาศตัวเลข Retail Sales ของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้ยังดูว่าภาพของกำลังการซื้อของอเมริกายังไม่ดีนัก แต่ในขณะที่ตัวเลข Empire State Manufacturing Index ออกมาดีกว่าที่คาดมาก โดยมาอยู่ที่ระดับ 7.4 ก็เรียกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังเป็นลักษณะของบวกและลบสลับกันอยู่ ตลาดโดยทั่วไปคงรอคำแถลงของนายเบอร์นันเกต่อสภาคองเกรสในวันนี้และวันพรุ่งนี้เพื่อกำหนดทิศทางอีกครั้ง ในเชิงเทคนิค MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำคงจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway จนกว่าจะมีความชัดเจนของถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรส ในขณะที่แนวต้านด้านบนของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,600 เหรียญ และ 1,615 เหรียญตามลำดับ ในส่วนของแนวรับขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,580 เหรียญ โดยที่กรอบราคาทองคำแท่งเมื่อวาน ทองคำแท่งสมาคมอยู่ที่ระดับ 23,700 และ 23,800 บาทต่อบาททองคำ นั่นหมายความว่า ราคาทองคำของไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 23,600 บาทและมีแนวต้านที่ระดับ 23,900 บาทต่อบาททองคำในวันนี้ โดยที่ค่าเงินบาทยังเป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกัน โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55 - 31.62 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามการแข็งค่าของค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.2300 ดอลลาร์/ยูโร ยังมองว่าทองคำเป็นการเคลื่อนไหวตามทิศทางของค่าเงินยูโรดอลลาร์เช่นเดียวกัน Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,050 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,200 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 890 บาท คำแนะนำ นักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,585 — 1,600 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) รอทำ Short position บริเวณ 1,600 เหรียญ นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอทำ Short position บริเวณ 1,615 เหรียญ สรุปได้ว่า โดยภาพรวมยังมองเป็นแนวโน้มขาลง แต่ให้ทำ Short position ตามบริเวณแนวต้านสำคัญ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ