กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,583 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,581 (22.30น.)เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.69 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,700 บาท กับ 23,800 บาท และกลับมาปิดที่ 23,650 บาท กับ 23,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,468คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,455คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 233 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 5% แบบ 10 บาท ลดลง 9% Silver Futures เพิ่มขึ้น 11 % GFQ12 ปิดที่ 23,900 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,010 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 23,900 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,020 บาท SVQ12 ปิดที่ 861บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,582.8ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 8.5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 27.302 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,254.64 ตัน (ขายออก 2.41 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 91.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 120.79 จุด ปิดที่ระดับ 12,822.57 จุด
Ratio Gold / Silver 57.97 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest
- ราคาทองคำยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ จากการที่ไม่มีข่าวใดใหม่ๆ หรือตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,568 — 1,599 เหรียญ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรออยู่นอกตลาด
US-based trader ระบุว่า ราคาทองคำดูจะมีการรีบาวน์ขึ้นมา แม้ว่าจะมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง แต่สิ่งนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูร้อน และผู้คนส่วนใหญ่กำลังพักผ่อนวันหยุดกัน ส่วนทางฝั่งยุโรปเองดูจะมีการเคลื่อนตัวได้ช้าเช่นกัน โดยในช่วงการซื้อขายเมื่อคืนวันศุกร์ ราคา spot gold ของยุโรปพุ่งสูงขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 1,300 ยูโรต่อออนซ์ หลังจากสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับ 1.2141 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2010 เนื่องจากความกังวลในพันธบัตรสเปน ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับ 7.28% ในขณะที่ดัชนี German PPI ออกมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ติดลบ 0.4% ต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับติดลบ 0.2%
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำยูโรโซนได้อนุมัติเงินช่วยเหลือภาคธนาคารสเปนมูลค่า 1 แสนล้านยูโร โดยจำนวนเงินกู้ที่แน่นอนจะถูกกำหนดในเดือนกันยายน หลังจากที่มีการตรวจสอบภาคธนาคารของสเปนรอบที่สอง ภายหลังต่อมา นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟได้ออกมาแสดงความยินดีกับการตัดสินใจของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรกรุ๊ปที่อนุมัติวงเงินช่วยเหลือสเปน
- อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนกันยายนร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 91.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่ารัฐมนตรีกลุ่มยูโรโซนได้อนุมัติเงินช่วยเหลือภาคธนาคารของสเปนแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ บาร์เคลย์ แคปปิตอล ระบุในรายงานว่า ความสนใจของตลาดหันไปที่การประชุม FOMC ในช่วงวันที่ 31 กรกฎาคม และจะจับตาดูว่า กลุ่มผู้กำหนดนโยบายจะมีข้อตกลงกันอย่างไรในเรื่อง “fiscal cliff” ในช่วงต้นปี 2013 ซึ่งการกระตุ้นเพิ่มเติมที่อาจจะเป็นไปได้จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
- เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนทองคำ SPDR ลดปริมาณการถือครองทองคำลงทั้งสิ้น 11.47 ตัน จากวันพฤหัสบดีที่ขายออก 9.06 ตัน และวันศุกร์ขายออก 2.41 ตัน ถือครองทองคำปัจจุบันที่ระดับ 1,254.64 ตัน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางรัสเซียได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำ 6.2 ตันในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แต่ตลาดหุ้นและราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เนื่องจากยังคงอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนในเรื่องวิกฤตหนี้ยูโรโซน ส่งผลให้ไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้
- ก่อนหน้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่เขตการปกครองบาเลนเซียของสเปนได้ออกมากล่าวว่า ทางบาเลนเซียจะมองหารัฐบาลกลางเพื่อช่วยเหลือการชำระหนี้ของตนเอง ส่งผลให้ยิ่งเป็นการเพิ่มความกังวลในเรื่องปัญหาทางการคลังของเศรษฐกิจอันดับ 4 ของยูโรโซน ภายหลังต่อมา นักลงทุนในทองคำได้กลับมาสนใจข่าวเรื่องธนาคารกลางรัสเซียเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำอีก 6.2 ตันสู่ระดับ 836.3 ตันในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลดลง 0.2% ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนายเบน เบอร์นันเกไม่ได้ส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการทำ testimony ต่อรัฐสภาทั้งสองครั้ง อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอได้ค่อยๆ กระตุ้นความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจถดถอย อันเป็นการลดความน่าดึงดูดใจในการลงทุนในทองคำเพื่อ hedging กับภาวะเงินเฟ้อ
- การที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 1% และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงได้สนับสนุนราคาทองคำให้เพิ่มสูงขึ้นเช่นกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ฟิทช์ เรทติ้ง ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวสกุลเงินเยนและสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของญี่ปุ่น ซึ่งได้แก่ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, มิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, ซูมิโตโม มิตซุย ไฟแนนเชียลกรุ๊ป และซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ แบงก์ ลงมาอยู่ที่ระดับ A- จากระดับ A เนื่องจากความกังวลที่ว่าความอ่อนแอด้านการเงินของรัฐบาลอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการธนาคารภายในประเทศ ในกรณีที่เกิดวิกฤต
- มาในเช้าวันนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ตามที่นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลในเรื่องภาคการเงินของสเปน หลังจากที่ภูมิภาคบาเลนเซียได้กล่าวถึงความต้องการการช่วยเหลือจากรัฐบาลสเปน ในขณะที่อีซีบีได้พลิกฟื้นความเดือนร้อนของกรีซขึ้นมาอีกก่อนที่จะมีการทบทวนแผนช่วยเหลือทางการเงิน โดยระบุว่า อีซีบีจะหยุดการรับพันธบัตรกรีซและหลักประกันอื่นๆ ที่ถูกใช้โดยธนาคารต่างๆ ของกรีซเป็นอย่างน้อยจนกว่าจะมีการทบทวนแผน
ดัชนี Dollar Index ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ในขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำโดยภาพรวมยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway อยู่ในกรอบ 1,570 — 1,600 เหรียญ โดยเป็นการเคลื่อนตัวตามข่าวทางด้านของยูโรโซน รวมทั้งข่าวเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา โดยที่ข่าวสหรัฐอเมริกาใน QE3 เริ่มจางหายไป โดยที่ค่าเงินยูโรเองยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลง จึงยังเป็นตัวที่กดดันให้ราคาทองคำยังอยู่ในภาวะการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ซึ่งในวันนี้คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,570 — 1,585 เหรียญ ในเชิงเทคนิคกราฟเริ่มเป็นลักษณะไร้ทิศทางแบบ Sideway โดยที่แนวต้านด้านบนและแนวรับด้านล่างเริ่มปรับตัวเข้าหากันพอสมควร และยังไม่มีความชัดเจนของทิศทาง สำหรับค่าเงินบาทเองก็เป็นอีกตัวที่แกว่งในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองคำ อันจะเห็นได้ว่าหลายครั้งเมื่อราคาทองปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น 3-5 สตางค์ บางครั้งถึง 10 สตางค์ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการแข็งค่าของค่าเงินบาท/ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำในรูปบาท/บาททองคำนั้นแกว่งตัวไม่มากเท่ากับหน่วยของราคาทองคำในหน่วยของดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนจะต้องเข้าใจว่า การคำนวณราคาทองคำของไทยจะต้องคำนวณทั้งสองส่วนเข้ามาประกอบกัน นักลงทุนบางรายที่ไม่เข้าใจก็จะมีความรู้สึกหงุดหงิด แล้วไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมราคา Gold Futures หรือทองคำแท่งเคลื่อนไหวน้อยมากในรูปของบาท/บาททองคำ ในขณะที่ทองคำในรูปดอลลาร์/ออนซ์เคลื่อนไหวค่อนข้างมาก
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,000 บาท
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,100 บาท
Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 880 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบแคบๆ 1570 -1585 เหรียญ หรือเทียบเท่ากับทองคำแท่ง 23,600 — 23,800 บาท ยังแนะนำให้เก็งกำไรในกรอบดังกล่าวจนกว่าราคาจะสามารถทะลุไปทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่มีแนวโน้มลดลงมากกว่า
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
หาจังหวะ Short Position เมื่อมีโอกาสประมาณ 20 % ของพอร์ท บริเวณแนวต้านสำคัญเหนือระดับ 1585 เหรียญขึ้นไป
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นการรอจังหวะการเข้าช้อนซื้อในบริเวณ 1,560 เหรียญลงมา หรือว่าเมื่อราคาปรับตัวลงลึกนักลงทุนทองคำแท่งก็จะเข้าช้อนซื้อ หรือในทางกลับกัน นักลงทุนที่ติดดอยอยู่ก็จะแนะนำให้ทำ Short บริเวณ 1,595 เหรียญขึ้นไป หรือบริเวณ 23,900 บาท/บาททองคำเป็นจุดที่ทำ Short สำหรับจุดที่น่าเข้าซื้อของนักลงทุนทองคำแท่งคือระดับ 23,300 บาท/บาททองคำ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง