กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ปตท.สผ.
- ผลการดำเนินงานก่อนสอบทานไตรมาสที่ 1 กำไรสุทธิ 264 ล้านดอลลาร์ สรอ.
- ปริมาณการขายเฉลี่ยไตรมาส 1 ปี 2558 เฉลี่ย 327,145 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2557
- เดินหน้าโครงการ “SAVE…to be SAFE” เพื่อรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังไม่แน่นอน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาว่า ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวน ทำให้ ปตท.สผ. ต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมัน ในขณะเดียวกันต้องรักษาระดับการผลิตปิโตรเลียมเพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศ และการเติบโตของบริษัทในระยะยาว อย่างไรก็ตาม จากการแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ มีผลให้ ปตท.สผ. มีผลกำไรเป็นบวก และมีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนของราคาน้ำมัน ดังเห็นได้ในผลประกอบการไตรมาสที่ 1
ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิก่อนสอบทานสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2558 รวม 264 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 8,616 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2557 ที่จำนวน 380 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 12,435 ล้านบาท) โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้การขายปิโตรเลียมที่ลดลง เนื่องจากสภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของ ปตท.สผ. จึงลดลงจาก 64.92 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ มาอยู่ที่ 48.74 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ แม้ว่าปริมาณการขายเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 327,145 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 298,621 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากโครงการซอติก้าที่เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 2557 และโครงการคอนแทร็ค 4 รวมทั้งโครงการสินภูฮ่อมจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Hess Thailand ในปีที่ผ่านมา
หากเปรียบเทียบผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ กับไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิก่อนสอบทานของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย จำนวน 264 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 739 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในไตรมาส 4 ซึ่งมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ในโครงการ พีทีทีอีพี ออสตราเลเซียและโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ จำนวน 997 ล้านดอลลาร์ สรอ.
“ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของบริษัทดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เราใช้แนวทาง ลด ละ เลื่อน ตามโครงการ “SAVE…to be SAFE” ได้ตามแผน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเราสามารถลดค่าใช้จ่าย ละและเลื่อนกิจกรรมและโครงการที่ยังไม่จำเป็นต้องทำหรือไม่เร่งด่วนออกไป ทำให้องค์กรมีการบริหารงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งผลให้เราสามารถรักษาสถานะการเงินที่แข็งแกร่งไว้ได้ โดยมีเงินสดในมือราว 4,000 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนหากเห็นโอกาสทางธุรกิจ” นายเทวินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปียังไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ปตท.สผ. จึงยังเดินหน้าโครงการ “SAVE…to be SAFE” รวมทั้ง ติดตามการบริหารความเสี่ยงทั้งในด้านการปฏิบัติการและด้านการเงินอย่างใกล้ชิด