พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 27 เมษายน 2558 - 03 พฤษภาคม 2558

ข่าวทั่วไป Tuesday April 28, 2015 15:17 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 27 เมษายน 2558 - 03 พฤษภาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 28-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อนอากาศค่อนข้างแปรปรวนมีฝนสลับกับอากาศร้อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล
  • สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรตรวจสอบสภาพโรงเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง ดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้ชำรุด และมีรอยรั่วซึม เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน หากหลังคามีรอยรั่วจะทำให้สัตว์เปียกชื้นอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 28-30 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อนอากาศค่อนข้างแปรปรวนมีฝนสลับกับอากาศร้อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล
  • สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรุ่นใหม่ในระยะนี้ควรรอให้มีฝนตกสม่ำเสมอ หรือดินมีความชื้นเพียงพอแล้วค่อยลงมือปลูก แต่ควรเตรียมดินเอาไว้ให้พร้อม
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรตรวจสอบสภาพโรงเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง ดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้ชำรุด และมีรอยรั่วซึม เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน หากหลังคามีรอยรั่วจะทำให้สัตว์เปียกชื้นอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อนอากาศค่อนข้างแปรปรวนมีฝนสลับกับอากาศร้อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล
  • สำหรับอากาศร้อนในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนเกษตรกรที่เตรียมดิน เพื่อปลูกพืชในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ควรยกร่องแปลงปลูกให้สูง เพื่อป้องกันน้ำขังในแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 27-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง สภาพอากาศจะมีความชื้นสูง ไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นกองรวมอยู่ในสวน แต่ควรกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝัง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืชโดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
  • ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วหากเปียกฝน เกษตรกรควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สัปดาห์นี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายยังไม่มากพอ เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน และเจริญเติบโตทางผลควรดูแลให้น้ำอย่างเหมะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่น ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
  • นอกจากนี้ เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำผิวดินช่วยรักษาความชื้นภายในดิน
  • สำหรับบริเวณที่มีฝนตกในระยะนี้จะเป็นผลดีแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต แต่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจหากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สัปดาห์นี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายยังไม่มากพอ เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน และเจริญเติบโตทางผลควรดูแลให้น้ำอย่างเหมะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่น ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
  • นอกจากนี้ เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำผิวดินช่วยรักษาความชื้นภายในดิน
  • สำหรับบริเวณที่มีฝนตกในระยะนี้จะเป็นผลดีแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต แต่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจหากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ