พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 16 ตุลาคม 2560 - 22 ตุลาคม 2560

ข่าวทั่วไป Monday October 16, 2017 16:04 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 16 ตุลาคม 2560 - 22 ตุลาคม 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

  • พื้นที่การเกษตรระยะนี้ทางตอนบนของภาคปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มลดลงโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
  • พืชผัก ในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค.ยังคงมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ทำให้อากาศยังคงมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเน่าดำ โรคใบจุด และโรคราน้ำค้าง เป็นต้น โดยดูแลแปลงปลูกให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นบริเวณแปลงปลูก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 16-19 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตรระยะนี้ปริมาณฝนลดลงโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของภาค เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรและควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ด้านการเกษตรตลอดฤดูเพาะปลูก
  • สัตว์เลี้ยงระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝน สภาพอากาศมีความชื้นสูงและมีอากาศเย็นในตอนเช้า อาจทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอ ปรับตัวไม่ทัน และติดเชื้อโรคได้ง่าย เกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง จะได้ไม่เจ็บป่วย รวมทั้งให้วัคซีนป้องกันโรคที่จะเกิดในฤดูหนาวให้กับสัตว์ด้วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตรในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค.ยังคงมีฝนกับตกหนักบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มได้ เกษตรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และในช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. ปริมาณฝนจะลดลง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมเกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรและเร่งฟื้นฟูพื้นที่การเกษตร
  • สัตว์น้ำในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค.จะมีฝนกับฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรหมั่นสังเกตสัตว์ที่เลี้ยงโดยเฉพาะหลังจากที่มีฝนตกซึ่งจะทำให้อุณหภูมิของน้ำและสภาพน้ำเปลี่ยน อาจจะทำให้สัตว์ปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและติดเชื้อโรคได้ง่าย เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อปรับสภาพน้ำ และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรระยะนี้จะยังคงมีฝนกับมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ ไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูกเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • ไม้ผลระยะนี้สภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะพักตัว สะสมอาหารเพื่อเตรียมออกดอก ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่า และโรคราสีชมพู เป็นต้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค.จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตร ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ไม้ผล ในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค. ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่า และโรคราสีชมพู เป็นต้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 16-19 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค.จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตร ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ไม้ผล ในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค. ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่า และโรคราสีชมพู เป็นต้น

ออกประกาศ 16 ตุลาคม 2560 00:00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ