ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ (Social Innovation Management and Business Analysis, SIMBA) หรือ ศูนย์วิจัยธุรกิจ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยการสนับสนุนทุนวิจัยของธนาคารกรุงศรีฯ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง ของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่: กรณีศึกษาตัวอย่างผู้บริโภคที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 15 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,363 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20 — 27 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยผลสำรวจทั้งหมดนี้สามารถดึงข้อมูลได้ที่ www.abacpolldata.au.edu พบว่า
สิ่งที่น่าพิจารณาคือ ตัวอย่างจำนวนมากหรือร้อยละ 39.3 ตั้งใจจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า ไวน์ เป็นของขวัญปีใหม่ อย่างไรก็ตาม รองลงมาคือ ร้อยละ 28.0 จะซื้อเครื่องแต่งกาย เช่น ผ้าพันคอ เสื้อ กางเกง ร้อยละ 20.1 จะซื้อเป็นกระเช้าของขวัญ ร้อยละ 19.7 จะซื้อผลไม้ ร้อยละ 19.5 จะซื้อคุ้กกี้ ขนมเค้ก ร้อยละ 13.5 จะให้เงิน ร้อยละ 13.2 จะซื้อการ์ดอวยพร ร้อยละ 9.6 จะซื้อเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อย กำไล ต่างหู และรองๆ ลงไปคือ ของใช้ เช่น ชุดกาแฟ ปากกา ของตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป ของตั้งโชว์ และเครื่องดื่มสุขภาพ ตามลำดับ
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.8 จะมอบของขวัญให้พ่อแม่ รองลงมาคือ ร้อยละ 47.4 จะมอบให้ญาติ ร้อยละ 34.9 จะมอบให้พี่น้อง ร้อยละ 24.8 จะมอบให้แฟนหรือคนรัก ร้อยละ 20.0 จะมอบให้เพื่อน ร้อยละ 15.5 จะมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และร้อยละ 3.9 จะมอบให้ครูอาจารย์ ตามลำดับ
โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.8 จะใช้เงินไม่เกิน 2,000 บาท ร้อยละ 28.6 จะใช้เงินระหว่าง 2,001 — 5,000 บาท และร้อยละ 13.6 จะใช้เงินมากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป
โดยสิ่งจูงใจอันดับแรกในการเลือกซื้อของขวัญได้แก่ ร้อยละ 29.6 ระบุด้านผลิตภัณฑ์ เช่น เป็นที่นิยม มีประโยชน์ มีคุณค่า มีความหมาย ร้อยละ 24.7 ด้านราคา มีความเหมาะสม ไม่แพงหรือถูกเกินไป ร้อยละ 19.3 ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย หาซื้อง่าย ร้อยละ 13.7 ด้านการส่งเสริมการขาย มีลด แลก แจกแถม และร้อยละ 12.6 ระบุจากโฆษณาที่เขามอบเป็นของขวัญปีใหม่กัน
โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.3 ต้องการให้ผู้รับมีความสุข ร้อยละ 86.0 เป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ร้อยละ 85.5 มีความสุขที่ได้ให้ ร้อยละ 80.1 แสดงความกตัญญูแก่ผู้มีพระคุณ ร้อยละ 79.3 เลือกซื้อของขวัญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 76.6 ระบุให้ของขวัญปีใหม่เพราะเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็ทำกัน รองๆ ลงไปคือ ให้ของขวัญแก่คนที่ท่านเคารพนับถือเท่านั้น จะเลือกซื้อของขวัญที่เป็นสิริมงคล มีโชคลาภ แสดงความรุ่งเรือง และเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องให้ของขวัญปีใหม่กัน
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามว่า ถ้าของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลได้อย่างเดียว จะขออะไร ผลสำรวจพบ 5 อันดับแรกได้แก่ อันดับที่หนึ่ง ร้อยละ 43.3 ขอให้รัฐบาลซื่อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ อันดับที่สองคือร้อยละ 21.7 ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เกิดความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ อันดับที่สามได้แก่ ร้อยละ 12.7 กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เพิ่มราคาพืชผลทางการเกษตร และดอกเบี้ยเงินฝาก อันดับที่สี่ ได้แก่ ร้อยละ11.8 แก้ปัญหาสังคมจริงจังต่อเนื่อง เช่น ยาเสพติด และอาชญากรรม และอันดับที่ห้า ได้แก่ ร้อยละ 6.2 ระบุขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการ และนโยบายรัฐบาลเรื่องค่าจ้างแรงงาน กับเงินเดือนปริญญาตรี ตามลำดับ
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่าง ร้อยละ 45.1 เป็นชาย
และร้อยละ 54.9 เป็นหญิง
ร้อยละ 12.9 มีอายุ 18-24 ปี
ร้อยละ 19.1 มีอายุ 25-35 ปี
ร้อยละ 19.7 มีอายุ 36-45 ปี
ร้อยละ 20.2 มีอายุ 46-55 ปี
ร้อยละ 16.4 มีอายุ 56-65 ปี
และร้อยละ 11.7 มีอายุ 66 ปีขึ้นไป
รายได้ ร้อยละ 20.7 ระบุรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท
ร้อยละ 21.8 ระบุรายได้ 5,001 — 10,000
ร้อยละ 17.4 ระบุรายได้ 10,001 — 15,000
ร้อยละ 10.4 ระบุรายได้ 15,001 — 20,000
ร้อยละ 29.7 ระบุรายได้มากกว่า 20,000 บาท
ด้านการศึกษา ร้อยละ 63.2 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ร้อยละ 30.4 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 6.4 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
--เอแบคโพลล์--