ที่มาของโครงการ ภัยคุกคามและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาสังคมที่น่าวิตกกังวล เพราะเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งกว่านั้น เรามักพบว่าผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ในขณะที่ผู้กระทำเป็นทั้งคนแปลกหน้า บุคคลใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งบุคคลภายในครอบครัวเอง ปัญหานี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเสมือนเชื้อโรคร้ายที่แพร่ระบาดอยู่ในสังคม โดยเฉพาะสังคมในเมืองใหญ่ ที่ปัจจุบันกลายเป็นสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างระแวดระวัง ไร้ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน สำหรับคำว่า “การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ” หมายรวมถึง การพยายามบังคับขืนใจ การลวนลามแบบ ถูกเนื้อต้องตัว การพูดจาโอ้โลมด้วยถ้อยคำลามกทั้งแบบซึ่งหน้า ทางโทรศัพท์ และทางอินเทอร์เน็ต (Chat) การแอบ ถ่ายภาพในอิริยาบถหรือสถานที่ส่วนตัวที่ไม่ควรเปิดเผย เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่าการคุกคามทางเพศบางลักษณะเป็น เรื่องที่ใกล้ตัวและเกิดขึ้นได้ง่ายในยุคที่การพัฒนาวัตถุกับการพัฒนาจิตใจเกิดช่องว่างขนานใหญ่อย่างเช่นปัจจุบันนี้ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ตระหนักถึงอันตรายจากภัยดังกล่าว จึงทำการศึกษาวิจัยเพื่อสะท้อนสภาพปัญหา อธิบายถึงปัจจัยอันเป็นสาเหตุ ตลอดจนแนวทางในการป้องกันและแก้ไข เพื่อนำเสนอต่อสังคม โดยรวม โดยทำการสำรวจภาคสนามหาข้อมูลเชิงสถิติศาสตร์ จากผู้หญิงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยการจัดส่งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และพนักงานเก็บรวบรวมข้อมูล ลงพื้นที่ตัวอย่างที่ถูกสุ่มได้ตามหลักวิชาการด้านระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์วัตถุประสงค์โครงการวิจัย 1. เพื่อสำรวจประสบการณ์ของผู้หญิงด้านการถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ 2. เพื่อสำรวจแนวทางของประชาชนเกี่ยวกับการระวังภัยและการป้องกันตัวจากการถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ 3. เพื่อสำรวจระดับความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อบทกฎหมายและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4. เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน 5. เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาในหัวข้อเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งต่อไประเบียบวิธีการทำโพลล์ โครงการสำรวจภาคสนามของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เรื่อง ภัยคุกคามทางเพศในกลุ่ม ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์: กรณีศึกษาผู้หญิงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งดำเนินโครงการสำรวจ ระหว่างวันที่ 1-9 พฤศจิกายน 2548 ประเภทของการสำรวจวิจัยครั้งนี้ คือ การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มประชากรเป้าหมาย คือ ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ (อายุระหว่าง 15-49 ปี: อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุข) ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เทคนิควิธีการสุ่มตัวอย่าง ได้แก่ การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิหลายขั้น (Stratified Multi-stage Sampling) และกำหนดลักษณะของตัวอย่างให้สอดคล้องกับประชากรเป้าหมายจากการทำสำมะโน ขนาดตัวอย่างที่ทำการสำรวจ จำนวน 1,331 ตัวอย่าง ช่วงความเชื่อมั่นอยู่ในระดับร้อยละ 95 ขณะที่ขอบเขตความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ +/- ร้อยละ 3 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ การสัมภาษณ์ หลังจากนั้นคณะผู้วิจัยได้ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของแบบสอบถามทุกชุดก่อนนำเข้าวิเคราะห์ข้อมูล และงบประมาณเป็นของมหาวิทยาลัยลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 31.9 อายุระหว่าง 30—39 ปี ร้อยละ 29.7 อายุระหว่าง 20—29 ปี ร้อยละ 26.5 อายุระหว่าง 40-49 ปี และร้อยละ 11.9 อายุระหว่าง 15-19 ปี ตัวอย่าง ร้อยละ 81.2 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี รองลงมาคือร้อยละ 17.0 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 1.8 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี ซึ่งตัวอย่างร้อยละ 38.6 ระบุอาชีพค้าขาย / กิจการส่วนตัว ร้อยละ 17.4 เป็นนักเรียน / นักศึกษา ร้อยละ 14.4 อาชีพรับจ้างทั่วไป ร้อยละ 13.9 อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 9.5 เป็นแม่บ้าน / เกษียณอายุ ร้อยละ 4.0 อาชีพรับราชการ / รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 0.3 อาชีพเกษตรกร และ ร้อยละ 1.9 ระบุว่าไม่มีงานทำ / ว่างงาน โปรดพิจารณาบทสรุปประเด็นสำคัญที่ค้นพบบทสรุปผลสำรวจ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “ภัยคุกคามทางเพศในกลุ่มผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์: กรณีศึกษาผู้หญิงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” ซึ่งได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,331 ตัวอย่าง ในระหว่างวันที่ 1-9 พฤศจิกายน 2548 ประเด็นสำคัญที่ค้นพบจากการสำรวจมีดังนี้ ผลการสำรวจล่าสุดพบว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คือ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม ตัวอย่างระบุเหตุการณ์ที่คนใกล้ชิดถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ คิดเป็นร้อยละ 17.2 โดยคนใกล้ชิดที่ถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ มากที่สุดเป็นอันดับแรก คือ คนใกล้ชิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่พักอาศัย เช่น เพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้าน ร้อยละ 31.3 รองลงมา ได้แก่ คนที่ทำงานและคนในสถาบันการศึกษา / โรงเรียน ร้อยละ 23.8 และ 22.9 ตามลำดับ ที่น่าวิตกกังวล คือ บุคคลภายในครอบครัวถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศถึง ร้อยละ 13.7 ติดอันดับคนใกล้ชิดที่ ถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศมากที่สุด 5 อันดับแรก หลังจากนั้น ผู้วิจัยได้สอบถามถึงตัวอย่างที่เคยถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่างถูกมองด้วยสายตาแทะโลมมากที่สุดถึง ร้อยละ 44.4 ถูกพูดจาปฏิโลมต่อหน้าด้วยถ้อยคำลามก ร้อยละ 26.7 และโทรศัพท์ลามก ร้อยละ 24.0 จากผลการสำรวจสามารถประมาณการได้ว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใน เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเคยถูกพูดจาชี้ชวนโน้มน้าวให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยสูงถึง 330,433 คน ในขณะที่ การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศผ่านทางสื่อ คือ อินเทอร์เน็ต โดยการส่งข้อความหรือภาพลามก มีถึง 261,379 คน ถูกแอบถ่ายภาพส่วนตัวไม่ควรเปิดเผย 78,246 คน ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ถูกข่มขืนกระทำชำเราและผู้ถูกกระทำทารุณ ทางเพศ มีมากถึง 16,859 และ 14,040 คน ตามลำดับ เมื่อผู้วิจัยสอบถามตัวอย่างถึงการถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศจากบุคคลต่างๆ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่างถูกคุกคามจากบุคคลแปลกหน้ามากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 60.0 รองลงมา คือ คนรัก / แฟน (ยังไม่ได้ แต่งงาน) ร้อยละ 26.6 และ ที่น่าสังเกตคือเพื่อนร่วมโรงเรียน / สถาบัน มีอยู่ถึงร้อยละ 14.6 ทั้งนี้สถานที่ที่ตัวอย่างระบุในการถูกคุกคามช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ บนรถโดยสารประจำทางหรือแท็กซี่ (ร้อยละ 27.2) รองลงมา คือ ละแวกที่พักอาศัย (ร้อยละ 24.9) และป้ายรถประจำทางหรือสถานีรถไฟ (ร้อยละ 24.0) ตามลำดับ ครึ่งหนึ่งของตัวอย่างหรือร้อยละ 50.6 ระบุว่าช่วงอายุที่ถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเป็นครั้งแรกตกอยู่ในช่วงระหว่าง 16-20 ปี โดยอายุเฉลี่ยของตัวอย่างที่โดนคุกคามเป็นครั้งแรก คือ 20 ปี สอดคล้องกับที่ตัวอย่างส่วนมากระบุว่าโดนคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเป็นครั้งแรก เมื่ออายุประมาณ 20 ปี ที่น่าตกใจและเป็นห่วงมาก คือ อายุของตัวอย่างที่ถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเป็นครั้งแรกที่น้อยที่สุด คือ 4 ปี นอกจากนี้ เทศกาลที่ตัวอย่างระบุว่าเคยประสบภัยคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศมากที่สุด ได้แก่ เทศกาลสงกรานต์ ร้อยละ 17.7 เทศกาลลอยกระทง ร้อยละ 9.6 และเทศกาลวันปีใหม่ ร้อยละ 9.2 อย่างไรก็ตาม ตัวอย่าง ร้อยละ 78.3 ระบุว่าไม่ขึ้นอยู่กับเทศกาลใด จากการสอบถามตัวอย่างถึงปัญหาการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเปรียบเทียบอดีตกับปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่างส่วนมาก หรือร้อยละ 93.0 ระบุว่าปัจจุบันมีปัญหาการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศสูงกว่าในอดีต นอกจากนี้ ตัวอย่างร้อยละ 69.1 ระบุว่าวิตกกังวลกับภัยคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศในปัจจุบัน ในขณะที่ ร้อยละ 30.9 ระบุไม่วิตกกังวล สำหรับสาเหตุที่ตัวอย่างคิดว่าทำให้บุคคลกระทำความผิดด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเป็นอันดับแรก ได้แก่ การที่มีสิ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศมีการแพร่ระบาดและหาซื้อได้ง่าย เช่น วีดีโอ / วีซีดี / ดีวีดี ลามก คิดเป็นร้อยละ 97.1 รองลงมา คือ การที่ผู้หญิงแต่งกายล่อแหลม ไม่รัดกุม รวมทั้งแสดงกิริยาท่าทางยั่วยวน ร้อยละ 95.5 และการขาดสติสัมปชัญญะ / ขาดสามัญสำนึก เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ เสพสิ่งเสพติด ร้อยละ 95.2 ตามลำดับ เมื่อผู้วิจัยสอบถามถึงความพึงพอใจต่อการปราบปรามงานด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่างเกือบ 2 ใน 3 หรือร้อยละ 60.2 ระบุว่า ไม่พอใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอดคล้องกับความคิดเห็นของตัวอย่างที่มีต่อความเข้มงวดในการปราบปราม ซึ่งตัวอย่างมากกว่าครึ่ง หรือร้อยละ 68.9 ระบุว่าการปราบปรามไม่ค่อยเข้มงวด นอกจากนี้ตัวอย่างร้อยละ 67.4 ยังระบุว่า ไม่มั่นใจต่อการเก็บรักษาความลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับเรื่องกรณีที่ถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ โดยตัวอย่างมากกว่าครึ่งหรือร้อยละ 66.2 มี ความเห็นว่าควรกำหนดบทกฎหมายลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เผยแพร่เรื่องราวของผู้เสียหาย ทั้งนี้บทกฎหมายลงโทษที่ตัวอย่างเสนอมา 3 อันดับแรก ได้แก่ การให้ออกจากราชการ / ให้ออกจากงาน (ร้อยละ 32.6) ปรับหรือจำคุก (ร้อยละ 19.9) และพักราชการ /พักงาน (ร้อยละ 13.0) ตัวอย่างส่วนมาก หรือร้อยละ 88.8 มีความเห็นว่าสื่อมวลชนนำเสนอเรื่องความก้าวร้าวและเรื่องทางเพศ ในปัจจุบันรุนแรงและชัดเจนกว่าในอดีต ในขณะที่ตัวอย่างมากกว่าครึ่ง หรือร้อยละ 54.2 มีความเห็นว่าสื่อมวลชน นำเสนอเนื้อหาเรื่องทางเพศค่อนข้างมาก โดยร้อยละ 77.9 ระบุว่ารับรู้ผ่านทางโทรทัศน์ ร้อยละ 66.2 ผ่านทาง หนังสือพิมพ์ ร้อยละ 49.0 ผ่านทางวีดีโอ / วีซีดี / ดีวีดี ร้อยละ 40.0 ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และร้อยละ 37.9 ผ่านทางภาพยนตร์ เมื่อสอบถามถึงความยากง่ายในการเข้าถึงสื่อลามกอนาจารผ่านทางอินเทอร์เน็ต จำแนกตามช่วงอายุของ ตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่ในช่วงอายุระหว่าง 15-25 ปี ระบุว่าเข้าถึงง่าย สูงถึงร้อยละ 89.4 ในขณะที่ตัวอย่างส่วนใหญ่ในช่วงอายุมากกว่า 25 ปีระบุว่าเข้าถึงง่ายเช่นกันสูงรองลงมาที่ร้อยละ 81.7 สำหรับความคิดเห็นของตัวอย่างต่อวิธีการระวังหรือป้องกันตัวจากภัยคุกคามและการล่วงละเมิดทางเพศนั้น พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 76.2 ระบุว่า ไม่เดินทางไปไหนในเวลากลางคืนถ้าไม่จำเป็น รองลงมาคือร้อยละ 73.9 ระบุ แต่งกายให้รัดกุมไม่ล่อแหลม ร้อยละ 63.8 ระบุพยายามไม่อยู่คนเดียว / ไม่ไหนมาไหนคนเดียว ร้อยละ 58.5 ระบุเพิ่มความระแวดระวังกับบุคคลรอบข้างหรือบุคคลแปลกหน้า และร้อยละ 33.3 ระบุพกอาวุธหรืออุปกรณ์ป้องกันตัว ตามลำดับ ประเด็นสำคัญสุดท้ายคือแนวทางที่ตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเรียงตามลำดับ ได้แก่ ปรับบทลงโทษทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิดให้หนักขึ้น ร้อยละ 86.5 เพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามสื่อลามก ร้อยละ 74.5 และเข้มงวดในการตรวจตราสถานที่เสี่ยงต่างๆ เช่น ผับ เธค ร้อยละ 72.1 ตามลำดับ โปรดพิจารณารายละเอียดดังตารางต่อไปนี้ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุเหตุการณ์ที่คนใกล้ชิดถูกคุกคามหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาลำดับที่ เหตุการณ์ที่คนใกล้ชิดถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ ค่าร้อยละ1 เคย 17.22 ไม่เคย 82.8 รวมทั้งสิ้น 100.0 สำหรับตัวอย่างที่ระบุว่าคนใกล้ชิด เคย ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศระบุถึงคนใกล้ชิด 5 อันดับแรก คือ 1. ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่พักอาศัย เช่น เพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้าน ร้อยละ 31.3 2. คนที่ทำงาน ร้อยละ 23.8 3. คนในสถาบันการศึกษา / โรงเรียน ร้อยละ 22.9 4. คนรัก / แฟน (ที่ยังไม่ได้แต่งงาน) ร้อยละ 18.9 5. บุคคลภายในครอบครัว ร้อยละ 13.7ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุรูปแบบการถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ รูปแบบการถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ ค่าร้อยละ1 ถูกมองด้วยสายตาแทะโลม 44.42 พูดจาปฏิโลมต่อหน้าด้วยถ้อยคำลามก 26.73 โทรศัพท์ลามก 24.04 ถูกลวนลามแบบถูกเนื้อต้องตัว 20.15 แสดงของลับ 17.78 ถูกพยายามบังคับขืนใจ 3.19 การกระทำอนาจาร 2.210 ถูกพยายามล่อลวงเพื่อสำเร็จความใค 2.1ตารางที่ 3 แสดงผลประมาณการจำนวนผู้ที่ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในรูปแบบต่างๆ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผลประมาณการ จำนวน พูดจาชี้ชวน โน้มน้าวให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย 330,433 ส่งข้อความ / ภาพลามกผ่านอินเทอร์เน็ต (Chat / Webcam) 261,379 ถูกแอบถ่ายภาพส่วนตัวที่ไม่ควรเปิดเผย 78,246 ถูกข่มขืนกระทำชำเรา 16,859 ถูกกระทำทารุณทางเพศ 14,040 หมายเหตุ เป็นการประมาณการจากประชากรเพศหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 49 ปี ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 2,531,671 คน (สองล้านห้าแสนสามหมื่นหนึ่งพันหกร้อยเจ็ดสิบเอ็ดคน) ขอบเขตความคลาดเคลื่อน (margin of error) + / - ร้อยละ 3ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุบุคคลผู้กระทำการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ค่าร้อยละเฉพาะผู้ที่เคยถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)ลำดับที่ บุคคลผู้กระทำการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ ค่าร้อยละ1 บุคคลแปลกหน้า / ไม่รู้จัก 60.02 คนรัก / แฟน (ยังไม่ได้แต่งงาน) 26.63 เพื่อนร่วมโรงเรียน / สถาบัน 14.64 เพื่อนร่วมงาน 12.75 ญาติ 5.56 เจ้านาย / หัวหน้างาน 5.37 บุคคลภายในครอบครัว 4.48 ครู / อาจารย์ 2.9ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุสถานที่ที่ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ค่าร้อยละเฉพาะผู้ที่เคยถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ สถานที่ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ ค่าร้อยละ1 บนรถโดยสารประจำทางหรือแท็กซี่ 27.22 ละแวกที่พักอาศัย 24.93 ป้ายรถประจำทางหรือสถานีรถไฟ 24.04 บ้าน 21.55 สถานบันเทิง 21.06 ถนน / ทางเท้า 20.67 สวนสาธารณะ 16.88 สถานที่ทำงาน 14.29 ห้างสรรพสินค้า 13.610 โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา 12.911 สะพานลอย 10.612 โรงภาพยนตร์ 10.413 ในที่ลับตาคม เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ 7.9ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุช่วงอายุที่ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศเป็นครั้งแรกลำดับที่ ช่วงอายุที่ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศเป็นครั้งแรก ค่าร้อยละ1 อายุต่ำกว่า 10 ปี 4.82 อายุระหว่าง 11-15 ปี 18.53 อายุระหว่าง 16-20 ปี 50.64 อายุระหว่าง 21-25 ปี 12.65 อายุระหว่าง 26-30 ปี 7.86 อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป 5.7 รวมทั้งสิ้น 100.0 สำหรับตัวอย่างที่เคยประสบภัยคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศที่มีอายุน้อยที่สุดอยู่ที่อายุ 4 ปี ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของตัวอย่างที่เคยประสบภัยอยู่ที่อายุ 20 ปี และตัวอย่างส่วนมากที่โดนคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ คือ ตัวอย่าง อายุ 20 ปีตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศตามเทศกาลต่างๆ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)ลำดับที่ เทศกาลที่ถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ ค่าร้อยละ1 สงกรานต์ 17.72 ลอยกระทง 9.63 วันปีใหม่ 9.24 วาเลนไทน์ 8.95 คริสต์มาส 2.66 เทศกาลฮาโลวีน 1.37 ไม่ขึ้นอยู่กับเทศกาล 78.3ตารางที่ 8 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุลักษณะปัญหาการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเมื่อเปรียบเทียบ ปัจจุบันกับอดีตลำดับที่ ลักษณะปัญหาการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศเมื่อเปรียบเทียบปัจจุบันกับอดีต ค่าร้อยละ1 สูงกว่าในอดีต 93.02 ไม่แตกต่างจากในอดีต 5.13 น้อยกว่าในอดีต 1.9 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 9 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความวิตกกังวลต่อภัยคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศลำดับที่ ความวิตกกังวล ค่าร้อยละ1 วิตกกังวล 69.12 ไม่วิตกกังวล 30.9 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 10 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุสาเหตุที่ทำให้บุคคลกระทำความผิดด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)ลำดับที่ สาเหตุที่ทำให้บุคคลกระทำผิดด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ค่าร้อยละ1 มีสิ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เช่น ภาพยนตร์ วีดีโอ วีซีดี ดีวีดี ลามก ที่แพร่ระบาดและหาซื้อง่าย 97.12 ผู้หญิงแต่งกายล่อแหลม ไม่รัดกุม รวมทั้งแสดงกิริยาท่าทางยั่วยวน 95.53 ผู้กระทำผิดขาดสติสัมปชัญญะ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ เสพสิ่งเสพติด /ความคึกคะนอง ขาดสามัญสำนึกของกลุ่มวัยรุ่น 95.24 การพาตนเองเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง เช่น ผับ / บาร์ 92.15 บทลงโทษทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิดมีความรุนแรงไม่เพียงพอ 90.3ตารางที่ 11 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความพอใจต่อการปราบปรามงานด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันลำดับที่ ความพอใจต่อการปราบปรามงานด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ค่าร้อยละ1 พอใจ 39.82 ไม่พอใจ 60.2 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 12 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเข้มงวดในการปราบปรามงานด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันลำดับที่ ความเข้มงวดต่อการปราบปรามงานด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ค่าร้อยละ1 เข้มงวด 31.13 ไม่เข้มงวด 68.9 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 13 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความมั่นใจในการเก็บรักษาความลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้รับเรื่อง กรณีถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศลำดับที่ ความมั่นใจในการเก็บรักษาความลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับเรื่อง ค่าร้อยละ1 มั่นใจ 32.63 ไม่มั่นใจ 67.4 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 14 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อการกำหนดบทกฎหมายเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ ที่เผยแพร่เรื่องราวของผู้เสียหายลำดับที่ ความคิดเห็นต่อการกำหนดบทกฎหมายเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เผยแพร่เรื่องราวของผู้เสียหาย ค่าร้อยละ1 ควรกำหนดบทกฎหมายลงโทษ 66.22 ไม่ควรกำหนดบทกฎหมายลงโทษ 7.53 ไม่มีความคิดเห็น 26.3 รวมทั้งสิ้น 100.0 สำหรับผู้ที่ระบุว่าควรกำหนดบทกฎหมายเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เผยแพร่เรื่องราวของผู้เสียหาย ได้เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับบทกฎหมายเพื่อลงโทษ 3 อันดับแรก ดังนี้ 1. ให้ออกจากราชการ/ให้ออกจากงาน ร้อยละ 32.6 2. ปรับ / จำคุก ร้อยละ 19.9 3. พักราชการ/พักงาน ร้อยละ 13.0ตารางที่ 15 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องความก้าวร้าวและ เรื่องทางเพศในเมื่อเปรียบเทียบปัจจุบันกับอดีตลำดับที่ ความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องความก้าวร้าวและเรื่องทางเพศเมื่อเปรียบเทียบปัจจุบันกับอดีต ค่าร้อยละ1 รุนแรงและชัดเจนกว่าในอดีต 88.82 ไม่แตกต่างจากในอดีต 8.63 รุนแรงและชัดเจนน้อยกว่าในอดีต 2.6 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 16 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุระดับความถี่ของสื่อมวลชนในการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องทางเพศลำดับที่ ระดับความถี่ของสื่อมวลชนในการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ค่าร้อยละ1 มาก 38.52 ค่อนข้างมาก 54.23 ค่อนข้างน้อย 2.04 น้อย 5.3 รวมทั้งสิ้น 100.0ตารางที่ 17 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการรับรู้เรื่องความก้าวร้าวและเรื่องทางเพศผ่านสื่อ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)ลำดับที่ การรับรู้เรื่องความก้าวร้าวและเรื่องทางเพศผ่านสื่อ ค่าร้อยละ1 โทรทัศน์ 77.92 หนังสือพิมพ์ 66.23 วีดีโอ / วีซีดี / ดีวีดี 49.04 อินเทอร์เน็ต 40.05 ภาพยนตร์ 37.9ตารางที่ 18 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุระดับความยากง่ายในการเข้าถึงสื่อลามกอนาจารผ่านทาง อินเทอร์เน็ต (จำแนกตามช่วงอายุ) (ยังมีต่อ)