ผู้ป่วยที่เหมาะสมที่จะได้รับยาจำนวน 4 ใน 5 พลาดโอกาสที่จะได้รับ ประโยชน์จากความก้าวหน้าล่าสุดทางการแพทย์ในการรักษา HIV

ข่าวต่างประเทศ Monday July 12, 2004 14:49 —Asianet Press Release

12 กรกฎาคม -- เอเชียเน็ท บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยวางแผนการใช้ประโยชน์สูงสุดจากยา FUZEON (ฟิวซิออน) กรุงเทพมหานคร, 12 กรกฎาคม — แม้ว่าจะเห็นประโยชน์อย่างชัดเจนที่ผู้ป่วยจะได้รับและอัตราการดื้อยาที่สูงใน ประเทศตะวันตก งานวิจัยชิ้นใหม่แสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบันผู้ป่วยที่เหมาะสมที่จะได้รับยาจำนวนเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากยา FUZEON (ชื่อสามัญ เอนฟูเวอร์ไทด์ หรือ T-20)1 ซึ่งเป็นความก้าวหน้าล่าสุด ทางการแพทย์ในการรักษา HIV เนื่องจากความจำเป็นที่ต้องฉีดยาเท่านั้น ในการประชุมโรคเอดส์นานาชาติที่เ ริ่มต้นขึ้นวันนี้ที่กรุงเทพฯ จะมีการเสนอแนวทางใหม่ในการทำงานร่วมกันของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย เพื่อรวมการใช้ยา FUZEON เข้ากับการรักษาประจำวันของผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ศาสตราจารย์ Joep Lange นายกสมาคมโรคเอดส์นานาชาติให้ความเห็นว่า “FUZEON เป็นการรักษาแบบใหม่ที่ ต่างจากแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง และทำให้สุขภาพของผู้ป่วยส่วนใหญ่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งผลดีนี้มีค่าเกินกว่าผลเสีย ในเรื่องการเพิ่มภาระในการฉีดยา น่าเป็นห่วงที่ผู้ป่วยจำนวนมากเหล่านี้ที่ได้รับการเสนอให้ใช้ยา FUZEON ปฏิเสธ การใช้ยานี้เนื่องจากความกลัวการฉีดยา จึงพลาดโอกาสที่จะได้รับการรักษา HIV แบบใหม่ในยุคนี้” ประโยชน์ที่ได้รับอย่างมากจากยา FUZEON จะเห็นผลใน 3 เดือนแรกและต่อไปอีก 2 ปี 2 ประโยชน์ของยา FUZEON ในการลดจำนวนเชื้อไวรัสจะเห็นชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์ ภายในเวลาเพียงแค่ 3 เดือน พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนเชื้อไวรัสต่ำกว่าระดับที่วัดได้มีจำนวนมากเป็นสองเท่าในกลุ่มที่ได้รับยา FUZEON เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้รับยา FUZEON นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยจะยังคงได้รับประโยชน์เหล่านี้เมื่อ การรักษาครบ 2 ปี ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยา FUZEON พบรายงานการเกิดอาการท้องร่วงเพียงครึ่งหนึ่งของกลุ่มที่ ไม่ได้รับยา FUZEON ซึ่งอาการท้องร่วงนี้พบได้บ่อยและเป็นอาการข้างเคียงจากการรักษา HIV โดยตรง นายแพทย์ Mike Youle แห่งโรงพยาบาล Royal Free กรุงลอนดอน ให้ความเห็นว่า “เราสนับสนุนให้แพทย์และ พยาบาลร่วมกันดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดในระยะเวลา 3 เดือนแรกของการรักษาด้วยยา FUZEON ซึ่งในช่วงเวลานี้จะ เห็นผลของการรักษาอย่างชัดเจน และการฉีดยาด้วยตนเองจะกลายเป็นเรื่องปกติประจำวัน” บทบาทที่สำคัญยิ่งของแพทย์และพยาบาล “เป็นเรื่องจำเป็นมากในฐานะแพทย์ที่เราใช้ยา FUZEON รักษาผู้ป่วยซึ่งดื้อต่อยาทั้ง 3 กลุ่ม โดยคำนึงถึงผลการ ลดลงอย่างมากของจำนวนเชื้อไวรัส การเพิ่มขึ้นของเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 และคุณภาพชีวิต กับการต้องฉีดยา ด้วยตนเอง งานที่ท้าทายของเราคือการหาทางเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจว่า ยา FUZEON จะเพิ่มคุณภาพชีวิตและทำ ให้พวกเขามีชีวิตยืนยาวขึ้นได้อย่างไร อันเป็นผลจากการที่เชื้อไวรัสมีจำนวนลดลงเป็นเวลานาน” นายแพทย์ Youle กล่าวสรุป พยาบาลก็มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงการรักษาด้วยยา FUZEON และยอมรับการฉีดยาเข้ากับ ชีวิตประจำวัน Dominick Varsalone พยาบาลจาก North Jersey Community Research Initiative, New Jersey ให้ความเห็นว่า “ความสำเร็จที่แท้จริงของโปรแกรม empowerment วัดได้จากข้อเท็จจริงที่พบว่า จากจำนวนผู้ป่วย 64 คนที่ได้รับการสั่งยา FUZEON ในคลินิกของเราตั้งแต่เริ่มเปิดตัวยา FUZEON เป็นครั้งแรก ร้อยละ 91 ยังคงใช้ยา FUZEON อยู่ ผู้ป่วยของเราที่ใช้ยา FUZEON เกิดแรงจูงใจจากสุขภาพที่ดีขึ้น บางครั้งเพียงสัปดาห์เดียวหลัง จากเริ่มการรักษา ผู้ป่วยที่ใช้ยา FUZEON ยังให้ความสนับสนุนที่มีค่ายิ่งและคำแนะนำที่ใช้ได้ผลแก่ผู้ป่วยที่เริ่มใช้ยา FUZEON” ภาระกิจต่อเนื่องของโรชต่อผู้ป่วย โรชยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่จะกระทำในทุกประเทศที่มียา FUZEON ใช้ เพื่อช่วยให้ความรู้และสนับสนุนผู้ป่วยใน เรื่องการใช้ยา กิจกรรมเหล่านี้รวมถึงโครงการริเริ่มที่ให้ความสนับสนุนจากพยาบาลสู่ผู้ป่วย และผู้ป่วยสู่ผู้ป่วย เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในระยะ 3 เดือนแรกซึ่งเป็นระยะเวลาที่สำคัญยิ่งของการรักษา เพื่อให้การรักษาด้วยยา FUZEON มีโอกาสสูงสุดที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน การพิเคราะห์ข้อมูล 96 สัปดาห์อย่างละเอียดมากขึ้น การพิเคราะห์ข้อมูล 96 สัปดาห์อย่างละเอียดมากขึ้นยืนยันว่า แผนการรักษาที่รวมการใช้ยา FUZEON ยังคงให้ ผลการรักษาที่ยาวนานและสำคัญต่อผู้ป่วย HIV ที่เคยได้รับการรักษามาก่อน ตลอดระยะเวลาการรักษานาน 2 ปี การใช้ยามีความปลอดภัยและยืนยันได้จากอาการอันไม่พึงประสงค์ที่พบในระหว่างปีแรกและปีที่สองของการรัก-ษา ไม่แตกต่างกัน ผู้ป่วยที่ใช้ยา FUZEON ตลอด 96 สัปดาห์มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่มี จำนวนเชื้อไวรัสต่ำกว่าระดับที่วัดได้ยังคงมีจำนวนมากเป็นสองเท่าในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยา FUZEON เมื่อเปรียบ เทียบกับกลุ่มของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับยา FUZEON นอกจากนี้ ผู้ป่วยกว่าครึ่งหนึ่งที่ได้รับยา FUZEON ได้รับการรักษา จนครบ 2 ปี การดื้อยารักษา HIV — “ระเบิดเวลาที่เดินอยู่” ในประเทศตะวันตก ศาสตราจารย์ Lange ให้ความเห็นว่า “มีความเข้าใจผิดอันน่าเป็นห่วงมากว่า “การเข้าถึงยาโดยถ้วนหน้า” (access for all) เป็นเพียงความท้าทายในประเทศที่กำลังพัฒนา แต่ความจริงแล้วการเข้าถึงการรักษาโดยใช้สูตรยาผสมที่ดี ที่สุดยังคงเป็นปัญหาที่เร่งด่วนในโลกตะวันตกที่ซึ่งการดื้อยารักษา HIV อยู่ในระดับน่าตกใจเป็นเสมือนระเบิดเวลาที่ เดินอยู่ ในขณะนี้ชาวตะวันตกยังคงเสียชีวิตจากโรคเอดส์ ซึ่งกว่า 15,000 คนเป็นผู้ป่วยที่เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ. 2546 แต่เพียงปีเดียว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้ยาทุกชนิดที่มีอยู่ในขณะนี้ร่วมกันเพื่อรักษาผู้ป่วย อย่างมีประสิทธิภาพ” หมายเหตุถึงบรรณาธิการ ประสิทธิผลของการรักษาซึ่งให้ผลยาวนาน ข้อมูลจากการใช้ยา FUZEON เป็นเวลา 48 สัปดาห์ที่แถลงที่ก่อนหน้านี้แสดงถึงผลการรักษาที่ยาวนานและไม่เปลี่ยนแปลงของยา FUZEON โดยให้อัตราการตอบสนองโดยรวมที่สัปดาห์ 48 สูงกว่าในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยา FUZEON เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ ไม่ได้รับยา FUZEON นอกจากนี้ประโยชน์ที่ได้รับจะยังคงอยู่นานกว่าถึงสามเท่าถ้าผู้ป่วยใช้ยา FUZEON และผู้ป่วยซึ่งผ่านการรักษา ด้วยยาชนิดต่างๆ มาก่อน ยิ่งจำนวนน้อยเท่าใดก็จะสามารถควบคุมระดับของเชื้อไวรัสให้ต่ำไว้ได้นานก่อนที่จะเกิดการเพิ่มขึ้นของเชื้อ ไวรัส (virological failure) เปรียบเทียบกับผู้ป่วยซึ่งผ่านการรักษาด้วยยาชนิดต่างๆ มามาก ความปลอดภัยของยา FUZEON FUZEON เป็นยาฉีดใต้ผิวหนังวันละสองครั้ง ปฏิกิริยาตอบสนองบริเวณที่ฉีดยาพบได้บ่อยที่สุด จากผลการศึกษา TORO ผู้ป่วยร้อย ละ 98 เกิดปฏิกิริยาตอบสนองบริเวณที่ฉีดยาอย่างน้อยที่สุดหนึ่งครั้งตลอดระยะเวลา 48 สัปดาห์ มีผู้ป่วยร้อยละ 4 หยุดการรักษาใน สัปดาห์ที่ 48 เนื่องจากปฏิกิริยาตอบสนองบริเวณที่ฉีดยา ในผู้ป่วยที่รักษาด้วยยา FUZEON พบอัตราการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดเพิ่มขึ้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นปอดบวม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการ เพิ่มขึ้นนี้มีความสัมพันธ์กับการใช้ยา FUZEON หรือไม่ การเพิ่มยา FUZEON เข้าในแผนการรักษา HIV ด้วยยาพื้นฐานไม่ได้เพิ่ม ความถี่หรือความรุนแรงของปฏิกิริยาอันไม่พึงประสงค์ส่วนใหญ่ซึ่งมักจะมีความรุนแรงเพียงระดับต่ำหรือปานกลางเท่านั้น อาจพบ ปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันไวเกินจากยา FUZEON ได้บ้าง แต่มีโอกาสเกิดซ้ำได้น้อยมากเมื่อผู้ป่วยได้รับยาอีก (re-challenge) การดื้อยา HIV ประมาณกันว่าในคนเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับการรักษา ไวรัสสามารถกลายพันธุ์เป็นเชื้อ HIV แบบใหม่และแตกต่างกันจำนวนนับ พันล้านได้ทุกวัน การแพร่กระจายของเชื้อ HIV ที่ดื้อยาในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วมีสูงมาก มีรายงานจากการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผู้ป่วยในทวีปอเมริกาเหนือมากถึงร้อยละ 50 ติดเชื้อ HIV ที่ดื้อยาต้าน HIV หนึ่งชนิดหรือมากกว่า โรชกับการรักษา HIV โรชอยู่แนวหน้าในความพยายามต่อสู้กับการติดเชื้อ HIV และ AIDS ได้มุ่งมั่นในการทำงานวิจัยเพื่อค้นคว้าและพัฒนายาใหม่ๆ เพื่อ รักษาโรค รวมทั้งวิทยาการใหม่ๆ เพื่อตรวจและวินิจฉัยโรคมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529 ยา Saquinavir เป็นยาตัวแรกในกลุ่ม Protease Inhibitor (PI) ที่โรชค้นพบและนำออกสู่ตลาดในปีพ.ศ. 2538 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยา Invirase (saquinavir) เป็นยาตัวแรกในกลุ่ม protease inhibitor (PI) ที่เปิดตัวในปีพ.ศ. 2538 สูตรยา Invirase/r (saquinavir 1000/ritonavir 100 mg) มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง มีความปลอดภัยในการใช้และผู้ป่วยทนต่อยาได้ดี และเป็นสูตรยาต้านไวรัสที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ใช้ยา Invirase ใช้ในการรักษาแบบ double boosting ซึ่งเป็นการรักษาแบบใหม่ซึ่งใช้ยาใน กลุ่ม PI สองชนิดร่วมกับยา minidose ritonavir ยา Viracept (nelfinavir) ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการรักษาการ ติดเชื้อ HIV และเป็นที่นิยมใช้ในการรักษาระยะแรก ยา Viracept มีลักษณะของการดื้อยาข้ามชนิดที่พิเศษ (unique cross resistance profile) และผลทางคลินิกได้แสดงให้เห็นว่าจะสามารถทำให้ใช้ยาอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันได้ต่อไปหากใช้ยานี้ไม่ได้ผลแล้ว ยา Viracept 625 mg ของโรชซึ่งได้รับการอนุมัติในทวีปยุโรปในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 จะลดจำนวนเม็ดยาที่ผู้ป่วยต้องรับประทานและลด อาการข้างเคียงของระบบทางเดินอาหาร ยา Viracept จำหน่ายโดยโรชภายนอกประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลี FUZEON ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2546 และจาก กรรมาธิการยุโรป และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2546 และประเทศแคนาดาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2546 การวัดจำนวนเชื้อไวรัสในการวิจัยทางคลินิกของยา FUZEON ใช้เครื่องมือตรวจวัด AMPLICOR HIV-1 MONITOR TEST, version 1.5 ของโรชไดแอคโนสติคส์ ซึ่งจัดเป็นเครื่องมือวัดที่มีความไวสูงในการตรวจวัดจำนวนเชื้อ HIV ในกระแสโลหิตผู้ป่วย (“viral load”) เนื่องจากยารักษามีจำนวนจำกัดการตรวจวัดจำนวนเชื้อ HIV ในกระแสโลหิตอย่างถูกต้องแม่นยำจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการเลือกใช้ยา และติดตามผลการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการประเมินถึงการเกิดเชื้อดื้อยา โรชมุ่งมั่นที่จะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาในทุกส่วนของโลกโดยการพัฒนานโยบายที่ยั่งยืนและความคิดริเริ่มที่จะสร้างผลที่เกิดขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชีวิตของประชาชนในประเทศที่ด้อยพัฒนาที่สุด โรชเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Accelerating Access Initiative ค้นหา ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายและกิจกรรมของโรชได้ที่ www.roche-hiv.com หรือ www.roche.com/home/sustain/sus_med.htm เกี่ยวกับโรช สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โรชเป็นกลุ่มบริษัทด้าน Healthcare ระดับแนวหน้า ซึ่งเน้นการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ธุรกิจหลักคือ เภสัชภัณฑ์รักษาโรคและการตรวจวินิจฉัยโรค โรชเป็นผู้นำในตลาดการตรวจวินิจฉัยโรค และเป็นผู้นำ ในการผลิตและจำหน่ายเภสัชภัณฑ์รักษาโรคมะเร็งและผู้นำทางด้านการรักษาโรคที่เกิดจากไวรัสและการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ในฐานะที่ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภ้ณฑ์และให้บริการเพื่อการป้องกัน ตรวจวินิจฉัย และรักษาโรคต่างๆ กลุ่มโรชมีส่วนร่วมในระดับแนวหน้า ในการสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชากรโลก โรชมีพนักงานประมาณ 65,000 คนใน 150 ประเทศทั่วโลก กลุ่ม โรชมีพันธมิตรและสัญญาการวิจัยและพัฒนากับหุ้นส่วนจำนวนมาก รวมทั้งเป็นเจ้าของหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท Genentech และ Chugai เครื่องหมายการค้าที่ใช้หรือกล่าวถึงในการแถลงข่าวนี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณโสภาวดี จันทร์ถาวร 124 คอมมูนิเคชั่นส์, ชั้น 16 อาคารยูบีซี 2 591 ถนนสุขุมวิท ซอย 33 แขวงคลองตันเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0 2662 2266; มือถือ 0 9967 8967 --เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท (www.asianetnews.net)----อินโฟเควสท์ (ปป)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ