ปักกิ่ง, จีน--7 พ.ย.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
เทียนส์ กรุ๊ป (Tiens Group) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเทียนจินและดำเนินธุรกิจอยู่ทั่วโลก ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ National Brand Publicity Project ของสำนักข่าวซินหัว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง
เทียนส์เป็นสมาชิกลำดับที่ 17 ของโครงการดังกล่าว ซึ่งสำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนได้ริเริ่มขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการสร้างแบรนด์จีนให้มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หลิว เจิ้งหรง รองประธานและเลขาธิการใหญ่ของสำนักข่าวซินหัว และ หลี่ จินหยวน ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทเทียนส์ ได้เข้าร่วมในพิธีลงนามระหว่างสองฝ่ายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา
เทียนส์เข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ในระยะเวลาเพียงสองปี หลังจากที่คุณ หลี่ จินหยวน ได้ตั้งบริษัทขึ้นที่เมืองชายฝั่งอย่างเทียนจินเมื่อปี 2538 กลุ่มบริษัทระหว่างประเทศแห่งนี้ดำเนินธุรกิจหลากหลายสาขา ทั้งเทคโนโลยีชีวภาพ การจัดการสุขภาพ อุตสาหกรรมการบริการ การท่องเที่ยว การศึกษา อีคอมเมิร์ซ และการลงทุนทางการเงิน โดยมีทุนอุตสาหกรรม ทุนการค้าและทุนการเงิน ตลอดจนมีสาขาอยู่ใน 110 ประเทศและภูมิภาค พร้อมแผ่อิทธิพลทางธุรกิจในกว่า 190 ประเทศ
บริษัทข้ามชาติสัญชาติจีนแห่งนี้ประสบความสำเร็จด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจากการจับมือเป็นพันธมิตรกับบรรดาบริษัทชั้นนำของโลก เทียนส์ได้สร้างอาณาจักรธุรกิจซึ่งส่วนใหญ่อยู่นอกประเทศจีน ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แนวคิดใหม่นานาชนิดในด้านเฮลธ์แคร์และสกินแคร์ เครื่องสำอาง และสินค้าในครัวเรือน
เทียนส์เปิดเผยว่า บริษัทมีฐานผู้บริโภคที่เหนียวแน่น 40 ล้านครัวเรือนทั่วโลก
คุณหลี่ จินหยวน เปรียบเปรยว่าเทียนส์มีความเป็นหนึ่งเดียวดั่ง "หมัดที่กำแน่น" และสามารถ "โอบกอดโลกทั้งใบด้วยแขนสองข้าง" คุณหลี่เล็งสร้างธุรกิจเครือข่ายระดับโลก โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับภารกิจสามประการ ได้แก่ เดินหน้าผลักดันโลกาภิวัฒน์ พัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น และขยายโอกาสการเติบโตที่กว้างมากขึ้น
เทียนส์ได้เริ่มเปลี่ยนจุดสนใจกลับมาที่ประเทศจีน ด้วยการก่อตั้งมหาวิทยาลัยในเทียนจิน ซึ่งอยู่ในละแวกไม่ไกลจากปักกิ่ง
การจับมือเป็นพันธมิตรกับซินหัว ซึ่งมีศูนย์ข่าวกระจายอยู่ทั่วประเทศจีนและในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก จะปูทางให้เทียนส์สามารถแผ่ขยายอิทธิพลทั้งในบ้านเกิดและต่างแดนได้อย่างสมดุล
ที่มา: Tiens Group
ลิงค์ภาพประกอบ: http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=300064
AsiaNet 70892