ไทยเนื้อหอม เช็กพุ่งเป้าร่วมค้าและลงทุนด้วย

ข่าวทั่วไป Thursday January 31, 2013 15:38 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปถดถอย ทาให้สร้างแรงกดดันให้หลายประเทศในสหภาพยุโรปต้องเร่งสร้างพันธมิตรใหม่ในภูมิภาคอื่นเพื่อขยายการค้าการลงทุนทดแทนตลาดเดิมที่ยังคงเผชิญวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐเช็ก (H.E. Mr. Martin Kuba) และคณะ ได้เข้าพบนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พร้อมนานักธุรกิจนักลงทุนใหญ่จากสาธารณรัฐเช็กจานวนรวม 40 ราย เดินทางมาหาลู่ทางทางการขยายการค้าการลงทุนกับประเทศไทย โดยเห็นว่าไทยและสาธารณรัฐเช็กสามารถที่จะขยายการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกันได้อีกมาก นางพิรมล กล่าวเสริมว่าสาธารณรัฐเช็กให้ความสาคัญกับไทย โดยจัดให้เป็น 1 ใน 26 ประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจด้วย โดยสนใจขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันเป็นพิเศษในด้านสาธารณูปโภค การขนส่งคมนาคม การจัดการสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และต้องการให้ไทยเป็นประตูในการเข้าสู่ตลาดอาเซียน ขณะเดียวกันสาธารณรัฐเช็กก็มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งอยู่กลางภูมิภาคยุโรปมีเครือข่ายการคมนาคมที่สะดวกทันสมัยไทยจึงอาจพิจารณาใช้สาธารณรัฐเช็กเป็นประตูสู่ภูมิภาคยุโรปตะวันออกได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เชิญชวนให้นักลงทุนของเช็กเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยชี้ว่าไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนอยู่ระหว่างรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2015 ซึ่งจะมีการยกเลิกภาษี ลดอุปสรรคทางการค้าการลงทุน และมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนและแรงงานฝีมือได้เสรีขึ้น จึงหวังว่าสาธารณรัฐเช็กจะเห็นถึงโอกาสดังกล่าว และจะพิจารณาไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตสินค้าหลายประเภท อาทิ รถยนต์และอุปกรณ์ยานต์ เครื่องจักรกล เครื่องคอมพิวเตอร์รวมทั้งอาหารสาเร็จรูป เป็นต้น และในปี 2555 ที่ผ่านมายอดการส่งออกของไทยสูงเป็นประวัติศาสตร์กว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังได้กล่าวยินดีในโอกาสที่ไทยและสาธารณรัฐเช็กได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย — สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งจะเปิดมิติเพิ่มความร่วมมือทวิภาคีด้านเศรษฐกิจระหว่างกันเป็นทวีคูณ ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดตั้งคณะทางานส่งเสริมการดาเนินการด้านการค้าระหว่างกันให้เป็นรูปธรรม โดยฝ่ายไทยมีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเช็กแจ้งว่า เนื่องจากปีที่ผ่านมา ประเทศในสหภาพยุโรปประสบวิกฤติทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ยอดการส่งออกของหลายประเทศสมาชิกฯ จึงต้องการหาแนวทางขยายความร่วมมือทางการค้าการลงทุนกับประเทศนอกสหภาพยุโรป ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของประเทศไทย

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวเสริมว่า ปัจจุบันสาธารณรัฐเช็กเป็นคู่ค้าอันดับที่ 49 ของไทยกับโลก และเป็นอันดับที่ 9 ของไทยกับสหภาพยุโรป การค้าของไทยกับสาธารณรัฐเช็ก โดยในปี 2555 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 871.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 542.50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ไทยส่งออกไปสาธารณรัฐเช็ก 707.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการนาเข้า 164.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่สาคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องวีดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าสาหรับให้สัญญาณเสียง หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ทองแดงและของทาด้วยทองแดง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น และสินค้านาเข้าที่สาคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ นมและผลิตภัณฑ์นม เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยุทธปัจจัย ผลิตภัณฑ์ทาจากพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคา เป็นต้น ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีสาหรับนักธุรกิจไทยที่สนใจจะขยายการค้าการลงทุนไปกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกโดยใช้ประโยชน์จากการทาธุรกิจร่วมกับนักธุรกิจเช็ก

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ