FTA เพิ่มยอดการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 24, 2008 15:32 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย FTA ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 5 ฉบับ ช่วยเพิ่มยอดการค้า โดยสินค้าไทยสามารถบุกเจาะตลาดได้มากขึ้น และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แถมได้ดุลการค้ากับทุกประเทศยกเว้นจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ไทยขาดดุลมาด้วยโดยตลอด แต่มีแนวโน้มขาดดุลลดลง ส่วน FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น  และอาเซียน-เกาหลี ที่จะลงนามเร็วๆ นี้ ไทยได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกเพียบ 
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 5 ฉบับคือ ไทย-ออสเตรเลีย, ไทย-นิวซีแลนด์, ไทย-อินเดีย จำนวน 82 รายการ ,ไทย-ญี่ปุ่น และอาเซียน-จีนในช่วงที่ผ่านมา ว่า มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งออกของไทย โดยที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ การค้ากับทุกประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย แต่สำหรับประเทศจีน แม้ว่าไทยจะยังขาดดุลการค้าอยู่ แต่หลังจากทำ FTA อาเซียน-จีนแล้ว การขาดดุลมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียในปี 2550 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 9,525.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.8% กับนิวซีแลนด์ มีมูลค่า 1,0281.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.4% กับอินเดีย (82 รายการ) มีมูลค่า 451.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.9 % กับจีนมีมูลค่า 31,062.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขาดดุลการค้า 1,389.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2549 จำนวน 487 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังพบว่า การส่งออกสินค้าไปยังประเทศคู่เจรจา FTA มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในตลาดออสเตรเลีย สินค้าไทยสามารถเข้าไปเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และขยายตลาดได้มากขึ้น ได้แก่ รถปิกอัพ เครื่องปรับอากาศ ทูน่ากระป๋อง เครื่องประดับต่างๆ ส่วนผลไม้ไทยที่เคยติดมาตรการสุขอนามัยที่เข้มงวดก็เข้าไปในออสเตรเลียได้แล้ว เช่น มังคุด ลิ้นจี่ ลำไย และผลไม้ที่แกะเปลือก เช่น สับประรด ทุเรียนและส้มโอ
สำหรับนิวซีแลนด์ สินค้าไทยที่ส่งออกได้มากขึ้น ได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า เม็ดพลาสติก อาหารทะเลกระป๋อง และผักผลไม้ที่เข้าตลาดได้แล้ว ได้แก่ ลำไย ลิ้นจี่ มังคุด ขิงสด ทุเรียน (แกะเปลือก) และยังมีโครงการความร่วมมือด้านปศุสัตว์กับนิวซีแลนด์อีกด้วย
ส่วนของอินเดียนั้น สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาก คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น เม็ดพลาสติก อัญมณี และเครื่องประดับ เป็นต้น ในส่วนประเทศจีน สินค้าที่ได้ประโยชน์จาก FTA ชัดเจน เช่น มันสำปะหลัง ยางพารา และผลไม้เมืองร้อน เช่น ลำไย ทุเรียน มะม่วง มังคุด เป็นต้น
นางสาวชุติมากล่าวอีกว่า FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น และอาเซียน-เกาหลี ที่ไทยจะมีการลงนามในเร็วๆ นี้นั้น จะเป็นประโยชน์กับการส่งออกสินค้าไทย โดยญี่ปุ่นจะเปิดตลาดสินค้าเพิ่มขึ้นและเร็วขึ้นอีก 71รายการ คิดเป็นมูลค่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าสำคัญที่จะเปิดตลาด คือ ผลิตภัณฑ์จากปลา กล้วย
ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ไม้อัดและไม้แปรรูป เป็นต้น และยังจะได้ประโยชน์จากการปรับกฎแหล่งกำเนิดสินค้าให้มีความยืดหยุ่นกว่าความตกลง JTEPA ได้แก่ ผ้าไม่ทอ สุรา และสินค้าเกษตร เช่น อาหารปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์ ปลาหรือสัตว์น้ำ โกโก้ ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง สตาร์ช นม พืชผักและผลไม้ รวมทั้งยังกำหนดให้สามารถสะสมแหล่งกำเนิดสินค้าในอาเซียนและญี่ปุ่นได้ ทำให้วัตถุดิบในอาเซียนและญี่ปุ่นถือเป็นวัตถุดิบของไทย จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ผลิตในการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีราคาต่ำในการผลิตสินค้า
ส่วน FTA อาเซียน-เกาหลี ไทยจะได้รับประโยชน์ โดยสินค้าไทยที่ส่งออกไปเกาหลีจะได้รับการลดภาษีและยกเว้นภาษี เพราะสินค้าส่วนใหญ่จะเป็น 0% ในปี 2010 เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบอื่นๆ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลแปรรูป เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น และยังสามารถนำเข้าสินค้าจากเกาหลี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าวัตถุดิบ เช่น สินแร่ เม็ดพลาสติก ปุ๋ยเคมี ทำให้ต้นทุนในการผลิตภายในประเทศลดลง ส่วนการนำเข้าสินค้าอื่นๆ ก็จะมีทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น เช่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปและของเล่นเด็ก
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ