‘ภูมิธรรม’ มอบนโยบาย ‘กรมเจรจาฯ’ ลุยเปิด FTA กับตลาดใหม่ หนุนเกษตรกร SMEs เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 4, 2023 13:28 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

?ภูมิธรรม? มอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สั่งลุยเร่งเจรจา FTA กับอียู เอฟตา และเกาหลีใต้ เดินหน้าเปิดเจรจา FTA กับตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับเกษตรกร และ SMEs พร้อมหาแนวทางเยียวยาผลกระทบที่มีประสิทธิภาพ เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำผลการเจรจาไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ตรวจเยี่ยมและประชุมมอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คณะที่ปรึกษา และคณะทำงาน โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และคณะผู้บริหารกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้การต้อนรับ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อขยายโอกาสให้สินค้าและบริการของไทย รวมทั้งดึงดูดการลงทุนจากประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยเฉพาะสาขาเป้าหมายที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภายในประเทศ จึงได้สั่งการให้กรมมุ่งการเจรจาเชิงรุกเพื่อเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ และจัดทำแผนการเจรจา FTA ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดลำดับความสำคัญและเร่งด่วน โดยคำนึงถึงประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและด้านยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหภาพยุโรป (อียู) ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรมากกว่า 447 ล้านคน สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และเป็นนักลงทุนในระดับโลก และเกาหลีใต้ ที่จะเตรียมเปิดเจรจาเพิ่มเติมในปี 2567 ซึ่งจะช่วยสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่มีความเข้มแข็งในการผลักดัน Soft Power ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล

?การเจรจา FTA มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยลดอุปสรรคและสร้างแต้มต่อทางการค้าให้กับไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้ ดังนั้น การเจรจาต่อรองควรคำนึงถึงความสมดุล ผลดีและผลเสีย โดยเฉพาะกับกลุ่มเกษตรกร และ SMEs ที่เป็นรากฐานของระบบเศษฐกิจ เพื่อให้สามารถมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จาก FTA ด้วย? นายภูมิธรรม เสริม

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ติดตามพัฒนาการเศรษฐกิจการค้าโลกให้ทันต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งการเจรจา FTA ยุคใหม่ กับประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งจะมีความทันสมัย มาตรฐานสูง และมีประเด็นใหม่ๆ อาทิ การค้าดิจิทัล สิ่งแวดล้อม แรงงาน และการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ถูกนำมาเชื่อมโยงกับการค้ามากขึ้น เช่น กรณีการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ไทยได้รับผลกระทบจากมาตรฐานที่เข้มข้นของต่างประเทศ รัฐบาลจึงต้องทบทวนพิจารณาความเหมาะสมและเร่งแก้ไขผลกระทบให้กลุ่มชาวประมง เป็นต้น

สำหรับกลุ่มเกษตร และผู้ประกอบการ SMEs จะต้องได้รับการสนับสนุนให้สามารถพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และพิจารณาแนวทางเยียวยาผลกระทบที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งต้องเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้สามารถนำผลจากการเจรจาไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และควรบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภายในและนอกกระทรวงพาณิชย์ เพื่อความเป็นเอกภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศ

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ภารกิจของกรม ประกอบด้วย 1) การเจรจาขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า ผ่านการจัดทำ FTA การประชุมหารือกับประเทศคู่ค้าเพื่อสร้างพันธมิตรด้านเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า ตลอดจนเข้าร่วมประชุมเจรจาในเวทีการค้าระหว่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาค อาทิ เอเปค และอาเซียน และระดับพหุภาคีขององค์การการค้าโลก (WTO) 2) การลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ อาทิ การจัดกิจกรรมสร้างเครือข่าย การเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการจัดงานแสดงสินค้า ?FTA Fair? รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านการค้าผ่าน FTA/RCEP Center ทั้งนี้ กรมอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการจัดตั้ง ?กองทุน FTA? เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าอย่างเป็นระบบ และ 3) การส่งเสริมธรรมาภิบาลในองค์กร และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้บริการต่อผู้ประกอบการและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

1 ธันวาคม 2566

ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ