กรุงเทพโพลล์: คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2554

ข่าวผลสำรวจ Thursday December 16, 2010 09:53 —กรุงเทพโพลล์

นักเศรษฐศาสตร์ทำนาย เศรษฐกิจปีกระต่าย GDP โต 5.0% ส่งออกโต 14.6% เงินเฟ้อ 3.7% อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ ที่ 2.75% และ เงินบาทอยู่ที่ 29.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 26 แห่ง เรื่อง “คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2554” พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวร้อยละ 3.9 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อย ละ 5.0 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 90.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 3.7

ในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 76.1 เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ ปัจจุบันไปสู่ระดับร้อยละ 2.75 ภายในสิ้นปี 2554 ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ 29.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 14.6 ด้านการเคลื่อนไหวของ SET Index นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 62.0 เชื่อว่าดัชนียังคงมีทิศทางขาขึ้นโดยจุดสูงสุดของปีจะอยู่ที่ 1,150 จุด

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2554 คือ อันดับ 1 ปัญหาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (ร้อยละ 67.6) อันดับ 2 ปัญหาการเมือง/การชุมนุมประท้วง/เสถียรภาพของรัฐบาล (ร้อยละ 64.8) อันดับ 3 ปัญหาด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาทแข็ง ค่า/สงครามค่าเงิน/ค่าเงินหยวน (ร้อยละ 59.2)

สำหรับข้อเสนอต่อรัฐบาล/หน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจปี 2554 คือ

          -          รักษาความสมดุลระหว่าง  การเติบโตทางเศรษฐกิจ  เงินเฟ้อ  และอัตราแลกเปลี่ยน  โดยใช้นโยบายการเงินและการ
คลังที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
          -          ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก  ด้วยการเพิ่มกำลังซื้อ
ภายในประเทศ  ดูแลการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงและเป็นธรรม
          -          แก้ปัญหาคอร์รัปชัน  รวมถึงไม่ควรใช้นโยบายประชานิยมจนเกินไป  แต่ควรเน้นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ
และเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืน

(โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้) 1. คาดการณ์ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553

จะขยายตัวร้อยละ 5.1-6.0                      ร้อยละ          7.1
จะขยายตัวร้อยละ 4.1-5.0                      ร้อยละ          36.6
จะขยายตัวร้อยละ 3.1-4.0                      ร้อยละ          36.6
จะขยายตัวร้อยละ 2.1-3.0                      ร้อยละ          12.7
จะขยายตัวร้อยละ 1.1-2.0                      ร้อยละ          1.4
จะขยายตัวร้อยละ 0.1-1.0                      ร้อยละ          1.4
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                        ร้อยละ          4.2

ค่าเฉลี่ยของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเท่ากับ ร้อยละ 3.9

2. คาดการณ์ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553
จะขยายตัวร้อยละ 7.1-8.0                      ร้อยละ          9.8
จะขยายตัวร้อยละ 6.1-7.0                      ร้อยละ         12.7
จะขยายตัวร้อยละ 5.1-6.0                      ร้อยละ          8.5
จะขยายตัวร้อยละ 4.1-5.0                      ร้อยละ         45.1
จะขยายตัวร้อยละ 3.1-4.0                      ร้อยละ         21.1
จะขยายตัวร้อยละ 2.1-3.0                      ร้อยละ          1.4
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                        ร้อยละ          1.4

ค่าเฉลี่ยของการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเท่ากับ ร้อยละ 5.0

3. คาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2554
อยู่ในช่วง 101-110  ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย          ร้อยละ          7.0
อยู่ในช่วง 91-100  ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย           ร้อยละ         35.2
อยู่ในช่วง 81-90  ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย            ร้อยละ         52.2
อยู่ในช่วง 71-80  ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย            ร้อยละ          2.8
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                                 ร้อยละ          2.8

ค่าเฉลี่ยของราคาน้ำมันดิบดูไบเท่ากับ 90.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

4. คาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยปี 2554
อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 5.1-6.0          ร้อยละ          1.4
อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 4.1-5.0          ร้อยละ         21.1
อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 3.1-4.0          ร้อยละ         69.1
อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 2.1-3.0          ร้อยละ          5.6
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                       ร้อยละ          2.8
          ค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับ    ร้อยละ          3.7
5. คาดการณ์  อัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2554
ธปท. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบัน
          ไปสู่ระดับร้อยละ 2.75  ภายในปี 2554           ร้อยละ         76.1
ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบันตลอดปี  2554   ร้อยละ         12.7
ธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบัน           ร้อยละ          1.4
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                                ร้อยละ          9.8

6.  คาดการณ์  การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทโดยเฉลี่ย ในปี 2554
ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 31.1- 32.0  บาทต่อดลลาร์สหรัฐ          ร้อยละ          2.8
ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 30.1- 31.0  บาทต่อดลลาร์สหรัฐ          ร้อยละ         16.9
ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 29.1- 30.0  บาทต่อดลลาร์สหรัฐ          ร้อยละ         25.4
ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 28.1- 29.0 บาทต่อดลลาร์สหรัฐ           ร้อยละ         38.0
ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 27.1- 28.0 บาทต่อดลลาร์สหรัฐ           ร้อยละ          9.9
ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 26.1- 27.0 บาทต่อดลลาร์สหรัฐ           ร้อยละ          1.4
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                                    ร้อยละ          5.6

ค่าเฉลี่ยของค่าเงินบาท เท่ากับ 29.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

7. คาดการณ์ การขยายตัวของ การส่งออกของไทยในปี 2554 เมื่อเทียบกับปี 2553 (ในรูปของเงินบาท)
ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 21-25          ร้อยละ          7.0
ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 16-20          ร้อยละ         32.4
ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 11-15          ร้อยละ         40.9
ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 6-10           ร้อยละ         11.3
ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 1-5            ร้อยละ          2.8
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                ร้อยละ          5.6

ค่าเฉลี่ยของการขยายตัวการส่งออกเท่ากับ ร้อยละ 14.6

8. คาดการณ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในปี 2554
          SET Index  จะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 53  โดยจุดสูงสุดของปี 54  คาดว่าจะอยู่ที่ 1,150  จุด    ร้อยละ          62.0
          SET Index  จะปรับลดลงจากปี 53  โดยจุดต่ำสุดของปี 54 คาดว่าจะอยู่ที่ 900  จุด        ร้อยละ           7.0
          ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                                                     ร้อยละ          31.0

9. ปัจจัยเสี่ยงใดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2554 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
อันดับ          1          เศรษฐกิจโลกในภาพรวม (การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก)           ร้อยละ         67.6
อันดับ          2          ปัญหาการเมือง/การชุมนุมประท้วง/เสถียรภาพของรัฐบาล          ร้อยละ         64.8
อันดับ          3          อัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงินบาทแข็งค่า/สงครามค่าเงิน/ค่าเงินหยวน)  ร้อยละ         59.2
อันดับ          4          ราคาน้ำมัน (ปรับเพิ่มขึ้น)                                 ร้อยละ         46.5
อันดับ          5          อัตราดอกเบี้ย (ปรับเพิ่มขึ้น)                               ร้อยละ         11.3
อันดับ          6          ปัญหาภัยธรรมชาติ                                       ร้อยละ         11.3
อันดับ          7          การเปิดเสรีของกลุ่มการค้าอาเซียน                          ร้อยละ          7.0
อันดับ          8          ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น กรณีมาบตาพุด และแหลมฉบัง เป็นต้น        ร้อยละ          4.2
อันดับ          9          ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน                                     ร้อยละ          4.2
อันดับ         10          อื่นๆ เช่น การผลิตภาคการเกษตรที่มีความเสี่ยง  เงินเฟ้อ  เป็นต้น  ร้อยละ          2.8
ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ                                                          ร้อยละ          1.4

10.  ข้อเสนอต่อรัฐบาล/หน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง  ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจปี 2554 (เป็นคำถามปลายเปิดให้นักเศรษฐศาสตร์ระบุเอง)
          -          รักษาความสมดุลระหว่าง  การเติบโตทางเศรษฐกิจ  เงินเฟ้อ  และอัตราแลกเปลี่ยน  โดยใช้นโยบายการเงินและการ
คลังที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
          -          ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก  โดยการเพิ่มกำลังซื้อ
ภายในประเทศ  ดูแลการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงและเป็นธรรม
          -          แก้ปัญหาคอร์รัปชัน  รวมถึงไม่ควรใช้นโยบายประชานิยมจนเกินไป  แต่ควรจะเน้นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ
และเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืน
          -          รีบลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน
หมายเหตุ: รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้  เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
                  นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด
          ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)   โทร. 02-350-3500 ต่อ 1776
          E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th      Website: http://research.bu.ac.th
          Twitter :  http://twitter.com/bangkok_poll


                                                  รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์
          1.          เพื่อสะท้อนความเห็นในประเด็นด้านเศรษฐกิจจากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจโดยตรงไปยังสาธารณชน
โดยผ่านช่องทางสื่อมวลชน
          2.          เพื่อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการและวางแผนงานเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ
ประเทศไทย

กลุ่มตัวอย่าง
          เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์ (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์
เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก  อย่างใดอย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้อง
ใช้ความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์  วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของ
ประเทศ จำนวน 26  แห่ง  ได้แก่  ธนาคารแห่งประเทศไทย  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  สำนักดัชนีเศรษฐกิจ
การค้ากระทรวงพาณิชย์  สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร  สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม  มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการ
พัฒนาประเทศไทย  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  สถาบันวิจัยเศรษฐกิจการคลัง  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ธนาคารกรุงไทย  ธนาคารไทย
พาณิชย์    ธนาคารนครหลวงไทย  ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย  ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย  บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทหลัก
ทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน บริษัทหลัก
ทรัพย์เกียรตินาคิน     คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยทักษิณ    คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  คณะวิทยาการการจัดการ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น  และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยประจำศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วิธีการรวบรวมข้อมูล
          รวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            :  9-15  ธันวาคม  2553

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                :  16  ธันวาคม 2553


                                     ข้อมูลรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง

                                        จำนวน        ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่
           หน่วยงานภาครัฐ                  33          46.5
           หน่วยงานภาคเอกชน               24          33.8
           สถาบันการศึกษา                  14          19.7
          รวม                            71         100.0

เพศ
            ชาย                          38          53.5
            หญิง                          33          46.5
          รวม                            71         100.0

อายุ
            18 ปี — 25 ปี                   1           1.3
            26 ปี — 35 ปี                  30          42.3
            36 ปี — 45 ปี                  22          31.0
            46 ปีขึ้นไป                     18          25.4
          รวม                            71         100.0

การศึกษา
             ปริญญาตรี                      2           2.8
             ปริญญาโท                     53          74.7
             ปริญญาเอก                    16          22.5
          รวม                            71         100.0

ประสบการณ์ทำงานรวม
              1-5  ปี                     13          18.3
              6-10 ปี                     22          31.0
              11-15 ปี                    11          15.5
              16-20 ปี                     8          11.3
              ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป              17          23.9
          รวม                            71         100.0

          --ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ