ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากนายกฯ คือ อยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ค่าครองชีพสูง และการว่างงาน และอยากให้ปฏิรูปเรื่องเศรษฐกิจให้เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด เผยมุมมองที่มีต่อนายกฯ ตลอดปีที่ผ่านมา “เป็นคนจริงใจ พูดจาตรงไปตรงมา”
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากนายกรัฐมนตรี” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,189 คน พบว่า
ของขวัญปีใหม่ ปี 2559 ที่อยากได้จาก นายกรัฐมนตรีมากที่สุด คือ อยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ค่าครองชีพสูง และการว่างงาน (ร้อยละ 34.4) รองลงมาคือ อยากให้ประเทศสงบสุข สามารถสร้างความสามัคคีปรองดองให้เห็นเป็นรูปธรรม (ร้อยละ 16.3) และอยากให้จัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว (ร้อยละ 10.1)
ส่วนเรื่องที่อยากให้รัฐบาลปฏิรูปให้เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดในปีใหม่นี้ ร้อยละ 39.1 อยากให้ปฏิรูปเรื่องเศรษฐกิจ แก้ปัญหาค่าครองชีพ ควบคุมราคาสินค้า รองลงมา ร้อยละ 18.7 อยากให้ปฏิรูปเรื่องสังคมปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และร้อยละ 9.6 อยากให้ปฏิรูปด้านการเมือง ทำให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ
ทั้งนี้เมื่อถามความเห็นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2559 เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (ปี 2558) พบว่าร้อยละ 40.6 คิดว่าน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว รองลงมาร้อยละ 33.8 คิดว่าน่าจะเหมือนกับปีที่แล้ว และร้อยละ 15.6 คิดว่าน่าจะแย่กว่าปีที่แล้ว
สุดท้ายเมื่อให้ประชาชนแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีตลอดปี 2558 ที่ผ่านมา ประชาชนร้อยละ 28.9 ระบุว่านายกรัฐมนตรี “เป็นคนจริงใจ พูดจาตรงไปตรงมา” รองลงมาร้อยละ 18.2 ระบุว่า “พูดจาแข็งไป โผงผาง ฉุนเฉียวบ่อย” และร้อยละ 13.4 ระบุว่า “เป็นคนจริงจัง ตั้งใจทำงาน”
มีรายละเอียดดังนี้
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับเรื่องของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จากนายกรัฐมนตรี เรื่องที่อยากปฏิรูปให้เห็นเป็นรูปธรรม แนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้า รวมถึงภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีในสายตาประชาชนในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ทุกสาขาอาชีพที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) จากนั้นจึงสุ่มถนนและประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,189 คน เป็นเพศชายร้อยละ 51.2 และเพศหญิงร้อยละ 48.8
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Ended) จากนั้นจึงนำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 9 - 14 ธันวาคม 2558
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 3 มกราคม 2559
ตาราง ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 609 51.2 หญิง 580 48.8 รวม 1,189 100 อายุ 18 - 30 ปี 283 23.8 31 - 40 ปี 253 21.3 41 - 50 ปี 233 19.6 51 - 60 ปี 228 19.2 61 ปีขึ้นไป 192 16.1 รวม 1,189 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 814 68.4 ปริญญาตรี 313 26.3 สูงกว่าปริญญาตรี 62 5.3 รวม 1,189 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 119 10 ลูกจ้างเอกชน 325 27.3 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว 354 29.8 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 48 4 ทำงานให้ครอบครัว 17 1.4 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 184 15.5 นักเรียน/ นักศึกษา 128 10.8 ว่างงาน/ เกษตรกร 14 1.2 รวม 1,189 100--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--